|
|
|
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ [ วันที่ 18/12/2563 ] |
|
|
|
|
ติด-ลด-งด-ย้ำ คาถาสู้ฝุ่น แนะออกกำลังในบ้านดีสุด |
|
|
|
|
เนื่องจากระยะนี้สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ในระดับ เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้ประชาชนต้องมีมาตรการดูแลตัวเองมากขึ้นนอก จากการสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน สำนักอนามัย กทม. โดย ศูนย์บริการสาธารณสุขกทม. 69 แห่ง ร่วมกับเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) เร่งลงพื้นที่ชุมชนเพื่อทำ ความเข้าใจกับประชาชน ภายใต้สโลแกน "ติด-ลดงด-ย้ำ" ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้
"ติดตาม" สถานการณ์ คุณภาพอากาศในพื้นที่ตนเองอยู่เสมอ
"ลดเวลา" ทำกิจกรรม หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้านหรืออาคาร หากร่างกายมีความผิดปกติต้องรีบไปพบแพทย์ทันที
"งดกิจกรรม" ก่อเกิดฝุ่นละออง เช่น งดสูบบุหรี่ งดการเผาในที่โล่งแจ้ง
"ย้ำเตือน" การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากาก N 95 เมื่อต้องอยู่ภายนอกอาคาร โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงคือ ผู้สูงอายุ เด็ก หญิงตั้งครรภ์และผู้ที่มีโรคประจำตัว
สำหรับประชาชนทั่วไปในช่วงนี้มีข้อแนะนำจากเจ้าหน้าที่ หากไม่มีกิจกรรมที่ต้องทำกลางแจ้ง ควรงดออกนอกอาคาร แต่หากจำเป็นต้องเดินทางก็ให้สวมหน้ากากอนามัยตลอด เมื่อถึงที่หมายก็ให้รีบเข้าไปในตัวอาคารทันที อย่างไรก็ตาม หากเริ่มมีอาการระคายเคืองบริเวณใบหน้า ผิวหนัง ให้รีบล้างด้วยน้ำสะอาดเพื่อลดการระคายเคือง ขณะที่ ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง อาทิ ผู้ป่วยที่มีโรคระบบ ทางเดินหายใจ อาจจะถูกกระตุ้นได้ง่ายจากสถานการณ์ระยะนี้ต้องระวังมากเป็นพิเศษ หรือสามารถปรึกษา เรื่องโรคที่มีสาเหตุจาก ฝุ่นละอองจาก "สายด่วนสุขภาพ 1646" ซึ่ง ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และหากต้องการปรึกษาแพทย์เจ้าหน้าที่จะประสานต่อสายผ่านไปยังศูนย์ BFC : Bangkok Fast & Clear ศูนย์บริหารราชการฉับไว ใสสะอาด ของแต่ละ รพ. ในสังกัด กทม. เพื่อนัดพบแพทย์ต่อไป
ในกลุ่มผู้ชื่นชอบการออกกำลังกายในสวนสาธารณะหรือกลางแจ้ง ระยะนี้มีคำเตือนจาก นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร ผอ.สำนักการแพทย์ ว่า หากอยู่ในพื้นที่มีปริมาณ PM 2.5 หนาแน่น ขอให้หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือให้สวมใส่หน้ากากอนามัย ในส่วนผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ หากมีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้งโดยเฉพาะ ผู้สูงอายุ เด็กและผู้ป่วยทางเดินหายใจ อย่างไรก็ตาม การออกกำลังกายที่บ้านเป็นทางเลือกหนึ่งที่ไม่น่าเบื่อสามารถทำได้ไม่ยาก ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานโรค ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรัง ผ่อนคลายความเครียดและเสริมสุขภาพใจให้แข็งแรง โดยลักษณะการออกกำลังกายแบบไม่หักโหม ที่สามารถเลือกปฏิบัติได้ในช่วงนี้คือ BE ACTIVE กระตุ้นกายใจ สามารถทำได้โดยการขยับร่างกาย ออกกำลังกายระดับปานกลางอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ หรือประมาณ 30 นาทีต่อวัน ให้ได้ 5 วันต่อสัปดาห์ และไม่ควรหักโหม
การออกกำลังกายแบบไม่หักโหม คือ สามารถพูดคุยขณะออกกำลังกายได้ วิธีการออกกำลังกายในบ้านทำได้ง่าย เพียงแค่เริ่มขยับร่างกายให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเดินขึ้นลงบันไดในบ้าน เต้นประกอบเพลงในโซเชียลเน็ตเวิร์ก เล่นเกมที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกาย ทำตามคลิปออกกำลังกายในอินเทอร์เน็ต และออกกำลังกาย ง่าย ๆ เช่น กระโดดเชือก ฝึกโยคะ เป็นต้น
ผอ.สำนักการแพทย์ เตือนการใส่หน้ากากอนามัยขณะออกกำลังกายอาจทำให้เกิดผลเสีย เพราะทำให้อึดอัด หายใจลำบาก เหนื่อยง่ายขึ้น เพราะได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับบุคคลและชนิดของหน้ากากที่สวมใส่ โดยขณะที่ออกกำลังกายแบบไม่หนักสามารถสวมใส่หน้ากากได้ สำหรับผู้ที่ไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำหรือผู้สูงอายุเตือนว่ามีความเสี่ยงมากขึ้นหากสวมหน้ากากขณะออกกำลังกาย เนื่องจากหัวใจจะทำงานหนักกว่าปกติ
ทั้งนี้ ชนิดของหน้ากากอนามัย เช่น หน้ากาก N95 อาจไม่เหมาะกับการสวมใส่ขณะออกกำลังกายเพราะจะทำให้ยิ่งอึดอัด แม้จะเลือกแบบที่มีวาล์วเปิดช่วยหายใจเพิ่มก็ตาม ขณะที่หน้ากากผ้า จะระบายอากาศ ได้ดีกว่า หายใจสะดวก แต่อาจไม่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 หรือป้องกันไวรัสได้. |
| | |
|
| |
|
pageview 1210910 |
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO) ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000 Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th | | |
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved
|
| |