HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ [ วันที่ 23/03/2564 ]
แพทย์เตือนภัย วัยรุ่นเปลี่ยนสีผิว

 

          ฉีดสารกลูต้าไธโอน เข้าเส้นเลือดถึงตาย
          หมอห่วงปัญหาวัยรุ่น กล้ามาก กลัว น้อย เวียนกันฉีดวิตา มินซีกลูต้าไธโอน เข้าเส้นเลือดเสี่ยงตาย เกิดภาวะแทรกซ้อนเพียบ เตือนอย่าหาทำอย่างเด็ดขาด แนะเปลี่ยนมายด์เซต ผิวทุกสีสวยได้
          เมื่อวันที่ 21 มี.ค. พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผอ.สถาบันโรคผิวหนัง กล่าวถึงกรณีมีกระแสการสอน และการผลัดกันฉีดวิตามีนซี กลูต้าไธโอน เข้าเส้นเลือด เพื่อหวังให้ผิวขาวในกลุ่มวัยรุ่น ว่า อยากให้เปลี่ยนค่านิยม ทัศนคติ มายด์เซตของคนไทยเลยว่า ผิวไม่จำเป็นต้องขาวถึงจะดี ทุกสีผิวสวยได้ ที่สำคัญการฉีดสารต่าง ๆ เพื่อให้ผิวขาวไม่ได้มีหลักการแพทย์รองรับ ถ้าถามว่ามีสารที่ทำให้เกิดผิวขาวจริงหรือไม่นั้น ต้องตอบว่ามี แต่ทางการแพทย์ถือว่าเป็นผลข้างเคียง ทั้งนี้ การฉีดสารเข้าร่างกายเอง จะมีผลข้างเคียงรุนแรงมากที่สามารถเกิดขึ้นได้จำนวนมาก เพราะเป็นการฉีดเข้าเส้นเลือด เวลารับสารอะไรเข้าไป จะมีการรับตรง ๆ เช่น 1. การติดเชื้อ เช่น หากวิธีการทำไม่ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้ออย่างถูกวิธีก็เสี่ยงที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดได้ง่ายมาก รุนแรง และรวดเร็วถึงตายได้
          นอกจากนี้ การฉีดสารอะไรเข้าร่างกายนั้น ไม่ใช่ว่าสักแต่ว่าฉีด แต่ต้องมีเทคนิคที่ถูกต้อง แพทย์ พยาบาลมีการเรียนการสอนกันถึง 4 ปี ทั้งเรื่องการไล่อากาศ การเลือกเส้นเลือด อัตราความเร็วในการฉีด เป็นความรู้ที่ค่อนข้างจำเพาะ หากทำไม่ถูกต้อง จะทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น หากไล่อากาศไม่เป็น จะเกิดฟองอากาศอุดตัน (aeroembolism) อุดตันตรงอวัยวะต่าง ๆ หากเป็นอวัยวะสำคัญ เช่น หัวใจ สมอง ปอด จะทำให้เสียชีวิตได้
          ขณะเดียวกัน สารที่มีการจัดหามาฉีดนั้น ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซี หรือกลูต้านั้น ไม่ได้มีการขึ้นทะเบียนเป็นสารทำให้ผิวขาว บางครั้งมีการหิ้วเข้ามาแบบผิดกฎหมาย ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นสารนั้น ๆ จริงหรือไม่ ความเข้มข้นถูกต้องหรือไม่ วิธีการเก็บดีหรือไม่ ปลอดเชื้อหรือไม่ เช่น วิตามินซี มีความไวต่อแสงแดดมาก การจัดเก็บไม่ดีเหมือนฉีดน้ำเปล่า ส่วนกลูต้า เป็นสารที่มีในร่างกายคนเราอยู่แล้ว ทางการแพทย์ใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง แต่คนเอามาฉีดหวังผลข้างเคียง จึงไม่แนะนำเนื่องจากมีผลต่อการทำงานของตับ
          "มีผลข้างเคียงอีกมากจากการนำสารต่าง ๆ มาฉีดเข้าร่างกายเอง โดยไม่ใช่แพทย์ หรือบุคลากรการแพทย์เป็นผู้ดำเนินการ อีกข้อที่รุนแรง หากเกิดการแพ้แล้วจะทำอย่างไร เพราะการฉีดเข้าเส้นเลือดถ้าแพ้เวลานั้นคือช็อกเลย เช่นวิตามินซี หรือกลูต้า ไม่ได้มีแค่สารนี้ล้วน ๆ แต่ยังมีสารตัวทำละลายอยู่ในนั้น คุณอาจจะไม่ได้แพ้วิตามินซี แพ้กลูต้า แต่แพ้สารทำละลาย ถ้าช็อกคือช็อกเลย เพราะการฉีดเข้าเส้นเลือดนั้นตรง และเร็วมาก ยิ่งไม่ได้ฉีดในสถานพยาบาล ช่วยเหลือไม่ทันเห็นตอนนี้ฉีดกันสนุกสนานไม่มีเคสเกิดขึ้นมาแล้วรู้ได้อย่างไรว่าจะไม่เกิดขึ้น และหากไม่ระวังมีการใช้เข็มร่วมกันอีกก็จะเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวี หรือเชื้อไวรัสตับอักเสบได้ จึงอยากจะเตือนว่าอย่าทำ" พญ.มิ่งขวัญ กล่าว
          พญ.มิ่งขวัญ กล่าวด้วยว่า เรื่องการรักสวยรักงามนั้นมีมาเป็นระลอก ๆ เมื่อประมาณ 5-10 ปีที่ผ่านมา เริ่มมีกระแสความนิยมผิวขาวกันแล้ว ในตอนนั้นเป็นวัยทำงาน หรือคนอายุ 20 ต้น ๆ แต่ตอนนี้กระแสลงมาในกลุ่มวัยรุ่น โดยจะมีปัญหาว่า 1. ข้อมูลไม่ครบ 2. ความกล้ามีมาก ความกลัวมีน้อยกว่า จึงเป็นเรื่องที่เราค่อนข้างกังวล การตัดสินใจค่อนข้างรวดเร็ว ถ้าเป็นวัยทำงานจะหาข้อมูลแล้วหาข้อมูลอีก ไม่ค่อยได้ฉีดกันเองนัก การฉีดกันเองนั้นตนเพิ่งเคยเห็นและได้ยิน.
          ฉีดสารกลูต้าไธโอน เข้าเส้นเลือดถึงตาย
          หมอห่วงปัญหาวัยรุ่น กล้ามาก กลัว น้อย เวียนกันฉีดวิตา มินซีกลูต้าไธโอน เข้าเส้นเลือดเสี่ยงตาย เกิดภาวะแทรกซ้อนเพียบ เตือนอย่าหาทำอย่างเด็ดขาด แนะเปลี่ยนมายด์เซต ผิวทุกสีสวยได้
          เมื่อวันที่ 21 มี.ค. พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผอ.สถาบันโรคผิวหนัง กล่าวถึงกรณีมีกระแสการสอน และการผลัดกันฉีดวิตามีนซี กลูต้าไธโอน เข้าเส้นเลือด เพื่อหวังให้ผิวขาวในกลุ่มวัยรุ่น ว่า อยากให้เปลี่ยนค่านิยม ทัศนคติ มายด์เซตของคนไทยเลยว่า ผิวไม่จำเป็นต้องขาวถึงจะดี ทุกสีผิวสวยได้ ที่สำคัญการฉีดสารต่าง ๆ เพื่อให้ผิวขาวไม่ได้มีหลักการแพทย์รองรับ ถ้าถามว่ามีสารที่ทำให้เกิดผิวขาวจริงหรือไม่นั้น ต้องตอบว่ามี แต่ทางการแพทย์ถือว่าเป็นผลข้างเคียง ทั้งนี้ การฉีดสารเข้าร่างกายเอง จะมีผลข้างเคียงรุนแรงมากที่สามารถเกิดขึ้นได้จำนวนมาก เพราะเป็นการฉีดเข้าเส้นเลือด เวลารับสารอะไรเข้าไป จะมีการรับตรง ๆ เช่น 1. การติดเชื้อ เช่น หากวิธีการทำไม่ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้ออย่างถูกวิธีก็เสี่ยงที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดได้ง่ายมาก รุนแรง และรวดเร็วถึงตายได้
          นอกจากนี้ การฉีดสารอะไรเข้าร่างกายนั้น ไม่ใช่ว่าสักแต่ว่าฉีด แต่ต้องมีเทคนิคที่ถูกต้อง แพทย์ พยาบาลมีการเรียนการสอนกันถึง 4 ปี ทั้งเรื่องการไล่อากาศ การเลือกเส้นเลือด อัตราความเร็วในการฉีด เป็นความรู้ที่ค่อนข้างจำเพาะ หากทำไม่ถูกต้อง จะทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น หากไล่อากาศไม่เป็น จะเกิดฟองอากาศอุดตัน (aeroembolism) อุดตันตรงอวัยวะต่าง ๆ หากเป็นอวัยวะสำคัญ เช่น หัวใจ สมอง ปอด จะทำให้เสียชีวิตได้
          ขณะเดียวกัน สารที่มีการจัดหามาฉีดนั้น ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซี หรือกลูต้านั้น ไม่ได้มีการขึ้นทะเบียนเป็นสารทำให้ผิวขาว บางครั้งมีการหิ้วเข้ามาแบบผิดกฎหมาย ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นสารนั้น ๆ จริงหรือไม่ ความเข้มข้นถูกต้องหรือไม่ วิธีการเก็บดีหรือไม่ ปลอดเชื้อหรือไม่ เช่น วิตามินซี มีความไวต่อแสงแดดมาก การจัดเก็บไม่ดีเหมือนฉีดน้ำเปล่า ส่วนกลูต้า เป็นสารที่มีในร่างกายคนเราอยู่แล้ว ทางการแพทย์ใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง แต่คนเอามาฉีดหวังผลข้างเคียง จึงไม่แนะนำเนื่องจากมีผลต่อการทำงานของตับ
          "มีผลข้างเคียงอีกมากจากการนำสารต่าง ๆ มาฉีดเข้าร่างกายเอง โดยไม่ใช่แพทย์ หรือบุคลากรการแพทย์เป็นผู้ดำเนินการ อีกข้อที่รุนแรง หากเกิดการแพ้แล้วจะทำอย่างไร เพราะการฉีดเข้าเส้นเลือดถ้าแพ้เวลานั้นคือช็อกเลย เช่นวิตามินซี หรือกลูต้า ไม่ได้มีแค่สารนี้ล้วน ๆ แต่ยังมีสารตัวทำละลายอยู่ในนั้น คุณอาจจะไม่ได้แพ้วิตามินซี แพ้กลูต้า แต่แพ้สารทำละลาย ถ้าช็อกคือช็อกเลย เพราะการฉีดเข้าเส้นเลือดนั้นตรง และเร็วมาก ยิ่งไม่ได้ฉีดในสถานพยาบาล ช่วยเหลือไม่ทันเห็นตอนนี้ฉีดกันสนุกสนานไม่มีเคสเกิดขึ้นมาแล้วรู้ได้อย่างไรว่าจะไม่เกิดขึ้น และหากไม่ระวังมีการใช้เข็มร่วมกันอีกก็จะเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวี หรือเชื้อไวรัสตับอักเสบได้ จึงอยากจะเตือนว่าอย่าทำ" พญ.มิ่งขวัญ กล่าว
          พญ.มิ่งขวัญ กล่าวด้วยว่า เรื่องการรักสวยรักงามนั้นมีมาเป็นระลอก ๆ เมื่อประมาณ 5-10 ปีที่ผ่านมา เริ่มมีกระแสความนิยมผิวขาวกันแล้ว ในตอนนั้นเป็นวัยทำงาน หรือคนอายุ 20 ต้น ๆ แต่ตอนนี้กระแสลงมาในกลุ่มวัยรุ่น โดยจะมีปัญหาว่า 1. ข้อมูลไม่ครบ 2. ความกล้ามีมาก ความกลัวมีน้อยกว่า จึงเป็นเรื่องที่เราค่อนข้างกังวล การตัดสินใจค่อนข้างรวดเร็ว ถ้าเป็นวัยทำงานจะหาข้อมูลแล้วหาข้อมูลอีก ไม่ค่อยได้ฉีดกันเองนัก การฉีดกันเองนั้นตนเพิ่งเคยเห็นและได้ยิน.

 


pageview  1210893    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved