HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ [ วันที่ 02/07/2564 ]
ส่องแผนรักษาโควิดอยู่บ้านยึดดุลพินิจแพทย์-สมัครใจ

  นางวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัด กทม. กล่าวถึงกรณีกระทรวงสาธารณสุขมีแนวทางปรับการรักษาในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการน้อย หรือกลุ่มสีเขียวพื้นที่ กทม.สามารถกักตัวรักษาได้ที่บ้าน (Home Isolation) ภายใต้การดูแลของแพทย์และพยาบาลว่า กทม.โดยสำนักการแพทย์ ได้เตรียมความพร้อม และกำหนดแนวทางการพิจารณาให้ผู้ป่วย โควิด-19 ที่มีอาการน้อย หรือกลุ่มสีเขียวกักตัวรักษาที่บ้าน ได้แก่ เป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ  อายุน้อยกว่า 60 ปี มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง อยู่คนเดียว หรือ มีผู้อยู่ร่วมที่พักไม่เกิน 1 คน ไม่มีภาวะอ้วน หรือน้ำหนักตัวน้อยกว่า 90 กิโลกรัม ไม่มีโรคร่วม อาทิ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคไตเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ และโรคอื่น ๆ ตามดุลพินิจของแพทย์ และยินยอมแยกกักตัวในที่พักของตนเอง
          ทั้งนี้ รพ.ในสังกัด กทม.จะประเมินความเหมาะสมและลงทะเบียนผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ที่เข้าเกณฑ์กักตัวรักษาที่บ้าน พร้อมถ่ายภาพรังสีทรวงอก  แนะนำการปฏิบัติตัวให้กับผู้ป่วยติดเชื้อ รวมทั้งติดตามประเมินอาการผู้ติดเชื้อระหว่างการแยกกักตัวที่บ้านผ่านระบบสื่อสาร 14 วัน โดยตรวจวัดอุณหภูมิและวัดปริมาณออกซิเจนในเลือด กรณีผู้ติดเชื้อมีอาการมากขึ้นจะจัดช่องทางติดต่อและรับ-ส่งต่อผู้ป่วยไปยัง รพ.
          ขณะเดียวกันได้เตรียมแนวทางส่งเสริมความรู้ และคำแนะนำแก่ผู้ป่วย ที่ต้องกักตัวในที่พัก โดยให้หมั่นสังเกตอาการและวัดอุณหภูมิทุกวัน หากมีอาการแย่ลง หรือมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น หอบ เหนื่อย ไข้สูงลอย ไม่สามารถปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ ให้ติดต่อ รพ.ที่รักษาอยู่ เมื่อจะต้องเดินทางไป รพ.ให้ใช้รถยนต์ส่วนตัว ไม่ใช้รถสาธารณะ ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่เดินทาง หากมี ผู้ร่วมยานพาหนะมาด้วยให้เปิดหน้าต่างรถ เพื่อเพิ่มการระบายอากาศ ห้ามผู้ใดมาเยี่ยมบ้านระหว่างแยกกักตัว  ไม่เข้าใกล้ หรือสัมผัสกับผู้สูงอายุ เด็กเด็ดขาด รักษาระยะห่าง  แยกห้องพัก และของใช้ส่วนตัวกับผู้อื่น
          กรณีหากแยกห้องไม่ได้ควรแยกบริเวณที่นอนให้ห่างจากคนอื่นให้มากที่สุด  นอกจากนี้ ควรเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท ไม่ควรนอนร่วมกันในห้องปิดที่ใช้เครื่องปรับอากาศ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกัน ใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่ออกจากห้องพักอาศัย ล้างมือทำความสะอาดสม่ำเสมอ
          อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมามีการหารือเพื่อเตรียมบุคลากรทางการแพทย์และอุปกรณ์  รวมถึงหมุนเวียนโยกย้ายผู้ป่วยตามอาการ เพื่อความเหมาะสมในการรองรับผู้ป่วยรายใหม่ที่เพิ่มมากขึ้น พร้อมได้ประสานความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนในการบริหารจัดการเตียง รองรับผู้ป่วยอาการหนัก ซึ่งศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน กทม. หรือศูนย์เอราวัณ โทร.สายด่วน 1669 จะเป็นหน่วยบริหารจัดการเตียง ผู้ป่วยโควิด-19 ในพื้นที่ กทม. ตามระดับความรุนแรงของโรค รวมทั้งบริหารรถนำส่งผู้ป่วย ซึ่งเป็นเครือข่ายบริการการแพทย์ฉุกเฉิน กทม. และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เมื่อประเมินอาการผู้ป่วยแล้วจะนำส่งไปยังสถานพยาบาลต่อไป ซึ่งการรับ-ส่งผู้ป่วยในแต่ละวันจะดำเนินการตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น.


pageview  1210873    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved