ในงานประชุมวิชาการโภชนาการแห่งชาติ ครั้งที่ 6 โดย สมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และภาคีเครือข่ายด้านอาหารและโภชนาการ กลุ่มบริษัทดัชมิลล์ ผู้นำด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารนมคุณภาพเพื่อสุขภาพและโภชนาการที่ดีของคนไทย ร่วมออกบูธและนำนวัตกรรมค้นคว้าใหม่ๆ มาเผยแพร่ พร้อมจัดงานเสวนาให้ความรู้ เรื่อง "โพรไบโอติก จุลินทรีย์สุขภาพดี" ภายใต้หัวข้อ "โพรไบโอติก:มูฟวิง บียอนด์ ไดเจสทีฟ เฮลท์-ออพโพทูนิตี้ แอนด์ ชาเลนจ์" โดยได้รับเกียรติจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 2 ท่านมาแลกเปลี่ยนความรู้แก่ผู้เข้าร่วมฟังเป็นจำนวนมาก เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
          ไขข้อข้องใจว่าจุลินทรีย์โพรไบโอติกคืออะไร อ.พญ.มณฑิรา มณีรัตนะพร จากภาควิชาอายุรศาสตร์สาขาวิชาโรคระบบทางเดินอาหาร คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล เผยว่า จุลินทรีย์ชนิดนี้อยู่ในลำไส้ของมนุษย์ โดยมีความสมดุลตามธรรมชาติ และมีหน้าที่ช่วยขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย ถ้ามีการกินอาหารหรือยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะ, ยาแก้โรคกรดไหลย้อน หรือมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะผู้หญิงทำให้จุลินทรีย์โพรไบโอติกถูกทำลายเสียสมดุล ส่งผลกระทบต่อสุขภาพเกิดอาการท้องผูกตามมา มีความเสี่ยงต่อโรคท้องผูกเรื้อรัง ส่งผลเสียทำให้เกิดการหมักหมมของเสียในลำไส้ใหญ่ และผลิตก๊าซพิษบางปริมาณที่สูงกว่าผู้ที่ขับถ่ายปกติ จากผลการวิจัยพบว่าเมื่อกินผลิตภัณฑ์อาหารที่มีจุลินทรีย์ โพรไบโอติก จะช่วยทำให้จุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหารเกิดการสมดุล ระบบขับถ่ายดีขึ้น
          ด้าน ผศ.พญ.ศุภวรรณ บูรณพิร จากสาขาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่ เสริมว่า ปัจจุบันผู้หญิงไทยมีอาการท้องผูกและป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เพิ่มขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารมีปริมาณกากใยน้อย ดื่มน้ำน้อย ประกอบกับความเร่งรีบในชีวิต ซึ่งผลการวิจัยและทดลองกับกลุ่มเป้าหมายที่มีปัญหาท้องผูกพบว่า การกินผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์โพรไบโอติก สายพันธุ์บี แล็กทิส เป็นประจำทุกวันจะช่วยให้การขับถ่ายดีขึ้น เนื่องจากจุลินทรีย์สายพันธุ์นี้ที่อยู่ในโยเกิร์ต มีคุณสมบัติทนต่อกรดในกระเพาะอาหาร และอยู่ในลำไส้ได้นานกว่าจุลินทรีย์ในโยเกิร์ตทั่วไป 7 วัน นอกจากนี้ยังช่วยยับยั้งแบคทีเรียที่ก่อโรค หรือช่วยผลักดันเชื้อโรคที่ไม่ดีต่อร่างกายออกไปจากบริเวณลำไส้ ส่งผลให้ระบบขับถ่ายดีขึ้นภายใน 7 วัน ส่วนวิธีในการกินโยเกิร์ตให้ได้ประโยชน์สูงสุดนั้นแนะนำว่า ควรกินในขณะท้องว่าง เช่น ช่วงตื่นหรือก่อนเข้านอน และควรกินเป็นประจำวันละ 1 ถ้วยเท่านี้ก็เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย.