HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
ไทยโพสต์ [ วันที่ 05/06/2555 ]
นักโภชนาการชี้'มื้อเช้า'ช่วยเติบโตสมวัยเรียนรู้เร็ว

รศ.ดร.ประไพศรี ศิริจักรวาล สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล เผยว่า "พฤติกรรมการบริโภคอาหารของเด็กยุคมิลเลเนียมหรือเด็กที่เกิดตั้งแต่ปี 2000 เปลี่ยนไปจากสมัยก่อนอย่างสิ้นเชิง จากที่เคยรับประทานอาหารร่วมสำรับกับครอบครัว กลายเป็นต่างคนต่างไปตามภาวะที่เร่งรีบ ส่วนใหญ่พึ่งอาหารนอกบ้านหรือซื้ออาหารถุง อาหารว่างมักรับประทานขนมกรุบกรอบที่ไม่มีประโยชน์ จากการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกายครั้งที่ 4 ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข 2554 พบว่า การบริโภคอาหารของเด็กไทยอายุ 6-14 ปี เกือบ 1 ใน 4 กินขนมกรุบกรอบทุกวัน และเกือบ 1 ใน 5 ดื่มน้ำหวานน้ำอัดลมทุกวัน แล้วช่วงเช้าเป็นเวลาเร่งรีบที่ทุกคนในครอบครัวต่างต้องรีบเร่งแข่งขันกับเวลาเพื่อไปเรียนหรือไปทำงาน
          ดังนั้น จะเห็นว่ามีรายงานการละเลยอาหารเช้าโดยเฉพาะเด็กๆ วัยเรียน ซึ่งส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า ไม่มีเวลา ตื่นสายหรือไม่มีอาหารเช้าเตรียมไว้ที่บ้าน จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมจึงรับประทานอาหารเช้าไม่สม่ำเสมอหรือไม่ได้รับประทานเลย ผลการสำรวจพฤติกรรมการบริโภคอาหารเช้าของเด็กไทยยุคใหม่ พบว่า โดยเฉลี่ยร้อยละ 32-48 งดหรือบริโภคอาหารเช้าเป็นบางวัน และการละเลยอาหารเช้ามีอัตราเพิ่มขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นโดยจากพฤติกรรมพร่องมื้อเช้าของเด็กวัยเรียน จะส่งผลในระยะยาวต่อการเรียนรู้และพัฒนาการในที่สุด
          สำหรับแนวต้านภัยปัญหาสุขภาพดังกล่าว รศ.ดร.ประไพศรีแนะนำว่า "การรับประทานอาหารเช้าเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดการเกิดปัญหาพัฒนาการการเจริญเติบโตไม่สมวัยของเด็กวัยเรียนได้ เนื่องจากอาหารเช้าถือว่าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการทำกิจกรรมต่างๆ หลังจากที่อดอาหารมาตลอดคืน โดยอาหารเช้าจะเป็นตัวกำหนดแบบแผนการบริโภคทั้งวัน อีกทั้งยังพบว่า เด็กที่กินอาหารเช้าทุกวันมีโอกาสน้ำหนักเกินและเป็นโรคอ้วนน้อยกว่าเด็กที่งดอาหารเช้า พร้อมยังสามารถป้องกันโรคเบาหวานในเด็กได้ โดยเด็กที่ละเลยอาหารเช้ามักจะเลือกอาหารที่ให้พลังงานสูงเกินความต้องการของร่างกาย เช่น อาหารจังก์ฟู้ด และของหวานในมื้อต่อๆ ไป เป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ไม่เหมาะสมกับโภชนาการที่ต้องการ และเมื่อเด็กๆรับประทานอาหารเช้าแบบไม่ถูกหลักโภชนาการเป็นประจำจะส่งผลให้อารมณ์เสียง่าย เครียด อ่อนเพลีย ไม่มีสมาธิ เรียนรู้ช้า จนระดับไอคิวต่ำในที่สุด"
          โดย รศ.ดร.ประไพศรีแนะเคล็ดลับ "5 แนวทางส่งเสริมสุขภาพ" สำหรับเด็กๆ สังคมในยุคใหม่ ดังนี้ 1.อาหารเช้าที่มีประโยชน์แสนอร่อย ให้คุณแม่แทนที่อาหารจังก์ฟู้ดและอาหารที่ไม่เหมาะสมกับมื้อเช้า ด้วยเมนูมีประโยชน์แสนอร่อยอย่างสร้างสรรค์ พร้อมครบคุณค่าตามหลักโภชนาการ ได้สารอาหารครบ 5 ชนิด โดยคุณแม่สามารถเสริมความสนุกของการรับประทานอาหารเช้าได้ ด้วยการตกแต่งหน้าตาของอาหารเช้าด้วยสีสันที่สดใสของซีเรียล หรือผักที่ทำเป็นตัวการ์ตูนหรือสัตว์น่ารักๆ เพื่อจูงใจให้เด็กๆกระตือรือร้น เรียนรู้ และมีความอยากรับประทานอาหารเช้ามากขึ้น
          2.สร้างต้นแบบในการรับประทานอาหาร เช้า 'ครอบครัว' คือต้นแบบที่ดีที่สุดในการปลูกฝังนิสัย และสร้างแบบแผนการรับประทานอาหารเช้าที่มีประโยชน์ ครบถ้วนด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ถ้าอยากให้ลูกรักมีสุขภาพดี เติบโตสมวัย ต้องเริ่มจากพ่อแม่ที่สร้างลักษณะนิสัยการรับประทานมื้อเช้าที่มีประโยชน์เป็นประจำก่อน เพื่อให้ลูกๆได้ปฏิบัติตาม 3.หยุดสั่ง! แนะนำลูกรักให้ถูกวิธี การออกคำสั่งหรือดุลูกอาจเป็นวิธีที่รวดเร็วทันใจสำหรับพ่อแม่เวลาอยากให้ลูกรับประทานอาหารเช้าให้หมด หรือบังคับรับประทานอาหารบางชนิดที่มีประโยชน์แต่ลูกรักไม่ชอบ ซึ่งจริงๆ แล้วจะส่งผลในระยะยาวให้เด็กๆ ต่อต้านการรับประทานอาหารเช้าหรืออาหารชนิดนั้นๆ มากขึ้น ดังนั้นพ่อแม่ควรแนะนำและส่งเสริมการรับประทานอาหารเช้าด้วยการสอนหรือใช้เทคนิคจูงใจ เช่น นำเอาฮีโร่ในดวงใจของเด็กๆ หรือดาราเด็กที่อยู่ในวัยเดียวกันเพื่อเป็นเพื่อนต้นแบบให้กับเด็กๆ มาชักชวนให้ลูกรักอยากรับประทานอาหารเช้า
          4.สื่อโภชนาการอิเล็กทรอนิกส์ในยุคแท็บเล็ตครองเมือง ไลฟ์สไตล์ของเด็กยุคมิลเลเนียมจะผูกติดกับโลกออนไลน์เป็นพิเศษ ผู้ปกครองสามารถเพิ่มความรู้ให้เด็กๆ ได้จากการสรรหาเว็บไซต์ เกม หรือคอมมิวนิตี้ที่ให้สาระ เกร็ดความรู้ในรูปแบบสนุกสนาน หรือเป็นการ์ตูนที่เด็กๆ ชอบ อย่างที่เป็นที่นิยมในยุคนี้ 5.โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนคือบ้านหลังที่ 2 ของเด็กๆ โรงเรียนจึงเป็นอีกช่องทางสำคัญในการส่งเสริมการรับประทานอาหารเช้า โดยอาจทำเป็นโครงการโรงเรียนอาหารเช้าแสนอิ่ม มีประโยชน์แสนอร่อย ไว้คอยบริการอาหารเช้าที่ครบคุณค่าไว้สำหรับเด็กๆ ถ้าโรงเรียนไม่ได้มีบริการอาหารเช้าสำหรับเด็กนักเรียน คุณครูอาจคอยดูแลและควบคุมร้านค้าหรือสหกรณ์ในโรงเรียนให้จำหน่ายแต่อาหารเช้าที่มีประโยชน์ อร่อย ครบถ้วนคุณค่าโภชนาการที่เหมาะสมกับพัฒนาการของเด็กๆ.


pageview  1210929    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved