HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
ไทยโพสต์ [ วันที่ 14/08/2555 ]
หนุนขยายเกษียณอายุแก้ขาดแคลนบุคลากร

 มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มส.ผส.) สนับสนุนสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดเวทีวิชาการมโนทัศน์ใหม่ผู้สูงอายุ เรื่อง"เกษียณอายุราชการ 65 ปี ถึงเวลาแล้วหรือยัง" หนุน "เดินหน้าขยายเกษียณอายุ" เหตุยังมีศักยภาพทำงานได้ แก้ปัญหาขาดแคลนบุคลากรหลังเข้าสู่สังคมสูงอายุ
          ดร.ยงยุทธ แฉล้มวงษ์ ผู้อำนวยการวิจัยการพัฒนาแรงงาน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า จากการทำงานวิจัย "ทำไมต้อง 65 ปี ใครได้ ใครเสีย" พบว่าที่ผ่านมาในกลุ่มข้าราชการสูงอายุ โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไป มีการเกษียณอายุออกจากระบบราชการมากที่สุดสูงถึงร้อยละ 83 ซึ่งหากมีการขยายการเกษียณจาก 60 เป็น 65 ปี จะสามารถชะลอหรือช่วยลดคนออกจากราชการลงได้ประมาณ 10,000 คนต่อปี ซึ่งเป็นการเพิ่มคนทำงานในระบบมากขึ้นหรือประมาณ 2% ในช่วง 5 ปี แต่ยอมรับว่าจะส่งผลให้การจ้างงานข้าราชการใหม่ลดลง อย่างไรก็ตามจะช่วยชะลอการจ่ายเงินของ กบข.ลงได้ รวมไปถึงการจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญ เฉลี่ยเม็ดเงินที่ชะลอการจ่ายในช่วง 5 ปีอยู่ที่ 30,000 บาท
          ทั้งนี้ เมื่อดูโครงสร้างภาพรวมข้าราชการพลเรือนจะเห็นได้ว่าในช่วง 3-4 ปี จำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น สัดส่วนข้าราชการใหม่ลดลงจากนโยบายจำกัดกำลังคน แต่การจะขยายอายุเกษียณราชการควรดำเนินการในบางกระทรวง บางสายงานเท่านั้น เพราะแต่ละหน่วยงานมีความแตกต่างกัน ซึ่งในบางกระทรวงที่มีการจัดตั้งมานาน อย่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงแรงงาน ทำให้มีสัดส่วนข้าราชการสูงอายุจำนวนมาก แต่ในส่วนกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศฯ ไม่เป็นปัญหา ข้าราชการส่วนใหญ่มีอายุไม่มาก หรืออาจจะดูขยายเฉพาะในบางสายงานที่ขาดแคลน อย่างสายช่างโยธาที่ขาดแคลนมาก
          อย่างไรก็ตาม ในการขยายอายุเกษียณราชการมีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ฝ่ายที่เห็นด้วยให้เหตุผลว่ายังเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ มีศักยภาพที่จะทำงานได้ และยังเป็นการชะลอการจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญ ส่วนฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยต่างเห็นว่า ผู้สูงอายุทำงานช้า ไม่มีประสิทธิภาพ ทั้งยังเป็นการปิดกั้นโอกาสและตำแหน่งให้คนรุ่นใหม่เข้าทำงานแทน
          ดร.โสรัจจ์ หงศ์ลดารมภ์ ภาควิชาปรัชญาและศูนย์จริยธรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า จากการทำรายงานวิจัย การพัฒนาดัชนีการเกษียณอายุของราชการและพนักงานของรัฐ ชี้ว่าประเทศไทยขณะนี้มีความจำเป็นต้องขยายอายุเกษียณข้าราชการและพนักงานของรัฐในทุกกระทรวง โดยเพิ่มเป็น 65 ปี เนื่องจากคนกลุ่มนี้ยังมีความสามารถ มีศักยภาพที่จะทำงาน ทั้งสายวิชาการ แพทย์ สายงานที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซึ่งในมุมมองภาคราชการหากปล่อยให้คนทำงานเหล่านี้ออกจากราชการทั้งที่ความสามารถยังเต็มเปี่ยม และให้เงินบำนาญไปเฉยๆ ถือเป็นการเสียเปล่าของผู้จ้างงาน อีกทั้งคน 60 ปีในปัจจุบันดูไม่แก่ และหลายคนยังมีสุขภาพที่ดีจากระบบการแพทย์และสาธารณสุขที่ดีขึ้น ยกเว้นในกลุ่มที่ต้องใช้แรงงาน ตำรวจที่ต้องจับผู้ร้าย ก็มีเหตุผลเพียงพอที่จะเกษียณ 60 ปีได้
          นอกจากนี้ยังมีความจำเป็นด้านประชากรศาสตร์ เพราะคนเกิดใหม่ลดลง ส่งผลให้คนรุ่นใหม่ที่จะเข้าสู่งานในระบบลดลง จึงต้องขยายอายุเกษียณเพื่อให้จำนวนคนทำงานมากขึ้น และไม่ทำให้คนรุ่นใหม่ที่มีจำนวนน้อยกว่า ต้องแบกรับกลุ่มผู้สูงอายุที่มีเพิ่มขึ้น
          รศ.ดร.นางมัทนา พนานิรามัย ข้าราชการบำนาญ กรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าต้องขยายอายุเกษียณราชการ และถึงเวลาต้องดำเนินการ แต่ก่อนดำเนินการต้องดูให้รอบด้าน ทั้งในด้านเศรษฐกิจมหภาคที่ต้องดูจำนวนแรงงานในระบบ ซึ่งหากมีมากไปก็ไม่ดี แต่หากขาดแคลนก็จะส่งผลกระทบ แต่ดูภาพรวมขณะนี้เชื่อว่าน่าจะขาดแคลน สวัสดิการผู้สูงอายุและรายได้ที่ลดลง รวมไปถึงเงินสะสมของผู้สูงอายุที่แม้ว่าจะมีเงินสะสมอยู่ แต่ค่าของเงินก็ลดลงทุกปี รวมไปถึงภาระทางการคลัง
          นพ.วันชาติ ศุภจตุรัส นายกแพทยสมาคม ข้าราชการเกษียณอายุวัย 72 ปี กล่าวว่า การขยายอายุเกษียณทำได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจของข้าราชการแต่ละคนว่าเขาอยากจะทำงานต่อหรือไม่ แต่อย่าออกเป็นกฎระเบียบบังคับ เพราะยังมีคนบางกลุ่มไม่อยากทำ นอกจากนี้ควรต้องมีระบบประเมินแต่ละปีเพื่อให้เขาตัดสินใจไม่ใช่ปล่อยให้เขาทำต่อเนื่อง5 ปี นอกจากนี้ควรกำหนดตำแหน่งให้ชัดเจน เพราะต้องคำนึงถึงเด็กรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาทำงานแทน ไม่ใช่กลายเป็นการปิดโอกาสการทำงานและความก้าวหน้า.

 


pageview  1210959    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved