HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
พิมพ์ไทย [ วันที่ 21/08/2555 ]
หมูตายอื้อ คนน่าห่วง

"คอรัปเตอร์ปะดาบ"-ปัญหาการลักลอบนำกากสารเคมีมาทิ้งในพื้นที่ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ดูเหมือนว่ายังจบไม่สวย หรืออาจเรียกได้ว่า"จบไม่สวย" เท่าที่ควร หลังก่อนหน้านี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ร่วมกับอีกหลายหน่วยงาน อาทิ กรมควบคุมมลพิษอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา สาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา ฯลฯ ที่"คอรัปเตอร์" ไม่ได้เอ่ยถึง แต่ที่แน่ๆ ไม่มีหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯอย่างเช่น กรมวิชาการเกษตร กรมประมง กรมชลประทาน หรือแม้แต่กรมปศุสัตว์ เข้าร่วมตรวจสอบประเมินผลกระทบข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นกับเกษตรกรผู้ปลูกผัก เลี้ยงปลา หมู และอื่นๆ รวมถึงสารพิษที่จะซึมลงไปในดินและขยายวงกว้างไปสู่แหล่งน้ำสาธารณะ
          ซึ่งหน่วยงานที่กระผ๊มเอ่ยมาท้ายๆ !!
          จึงถือว่าเป็นหน่วยงานที่ขาดความรับผิดชอบในการใส่ใจทุกข์สุขของประชาชน ไม่รู้ว่า"นายสัตวแพทย์ทฤษดี ชาวสวนเจริญ" อธิบดีกรมปศุสัตว์ เคยแว่วเข้าหูบ้างมั๊ย เอาล่ะ...ทั่นรัฐมนตรีใน"กระทรวงผัก" ทั่นไหนกำกับกรมไหนกันบ้าง ก็ขอให้ทั่นไล่เช็กบิลกันทีเถอะ เดี๋ยวชาวบ้าน...ชาวช่องจะหาว่า"นักการเมือง" ไม่ทำงาน ติดเชื้อ"สันหลังยาว" จากข้าราชการประจำกันเสียหมด...เฮ่อๆๆ
          "คอรัปเตอร์"บอกตามตรง ผลกระทบจากการลักลอบนำกากสารเคมีมาทิ้งในพื้นที่ ต.หนองแหนนั้น จากข้อมูลชาวบ้านหมู่ที่ 7 ต.หนองแหนระบุว่า สุกรทั้งแม่พันธุ์และลูกสุกรเกิดโรคท้องร่วงและถ่ายท้องตายไปแล้วจำนวนมาก ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากน้ำที่นำไปเลี้ยงสุกรมีสารพิษปนเปื้อนไหลซึมจากบ่อน้ำที่มีการลักลอบนำกากสารเคมีไปทิ้งแล้วไหลซึมปะปนกับน้ำใต้ดิน และพบว่าน้ำในบ่อของชาวบ้านมีสีขุ่นข้น อีกทั้งชาวบ้านก็สูบน้ำจากบ่อไปใช้ภายในบ้านและโรงเรือนเลี้ยงสุกร ที่สำคัญชาวบ้านเลี้ยงสุกรมานานหลายสิบปีแล้ว ก็ไม่เคยเกิดปัญหาโรคถ่ายท้องหรือท้องร่วงแบบนี้มาก่อน
          ส่วนสาเหตุที่ทำให้สุกรถ่ายท้อง คาดว่าจะมาจากบ่อน้ำที่ขุดไว้ ซึ่งก่อนหน้านี้น้ำในบ่อใสสะอาด แต่ปัจจุบันกลับมีสีขุ่นข้น น่าจะมีสารเคมีปนเปื้อนมาจากน้ำใต้ดิน เพราะอยู่ห่างจากบ่อที่นำกากสารเคมีมาทิ้งไม่ถึง 1 กิโลเมตร เมื่อนำน้ำไปเลี้ยงสุกร จึงเกิดล้มป่วยและตายไป เชื่อว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากน้ำในบ่อที่มีสารพิษปนเปื้อน
          นอกจากนี้ ชาวบ้านยังได้รับความเดือดร้อนเรื่องกลิ่นเหม็นฉุนมานานแล้ว ปัจจุบันก็ยังเหม็นฉุนอยู่ เวลาหายใจเข้าไปก็จะสัมผัสได้ทันที ซึ่งพบว่าชาวบ้านหลายคนป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจแล้ว แถมน้ำที่ตั้งท่อสูบจากใต้ดินแล้วนำไปอาบซักล้างก็ยังไม่ปลอดภัย ยังเกิดอาการผื่นคันไปทั่วร่างกาย แถมยังลงทุนไปซื้อเครื่องกรองน้ำมาติดตั้งไว้ ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะกรองน้ำได้สะอาดหรือปลอดภัยจากสารปนเปื้อนหรือไม่
          ด้าน"สุพจน์ กังใจ" หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมและป้องกันโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ประชุมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อสุ่มตรวจชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียง เพื่อเจาะเลือดและนำปัสสาวะส่งไปยังกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ให้ตรวจหาสารฟีนอลในปัสสาวะและโลหะหนักในเลือด คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ส่วนการตรวจเลือดและปัสสาวะชาวบ้าน เนื่องจากผลการตรวจกากสารเคมีที่ลักลอบนำมาทิ้งและแหล่งน้ำที่ชาวบ้านนำไปใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค พบสารโลหะบางชนิดและต้องสุ่มตรวจ เนื่องจากต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ2 พันบาทต่อคน
          ภายหลังจากทราบผลว่าพบสารฟีนอลในปัสสาวะหรือโลหะหนักในเลือดแล้ว ก็จะต้องตรวจชาวบ้านทุกคนเพื่อการรักษาที่แตกต่างกัน เพราะแต่ละคนอาจจะพบไม่เหมือนกัน นอกจากนี้ ยังแนะนำชาวบ้านว่า ตอนนี้ควรงดใช้น้ำจากบ่อ ส่วนเรื่องของกลิ่นนั้นไม่ควรเข้าใกล้ การใช้แม๊สปิดจมูกต้องใช้แม๊สที่ป้องกันกลิ่นได้ รวมทั้งน้ำที่นำมาอุปโภคนั้น ควรเป็นน้ำที่สะอาด เช่น น้ำประปา หรือน้ำดื่มบรรจุขวด
          ขณะที่"เริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี" ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ระบุว่าขณะนี้ได้ดำเนินคดีกับผู้ประกอบการ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนกำลังดำเนินการอยู่ ส่วนการแก้ไขปัญหาได้นำลูกบอลชีวภาพไปกำจัดกลิ่นแล้ว ส่วนเรื่องการขนย้ายกากสารเคมีเป็นเงื่อนไขที่ผู้ประกอบการจะต้องดำเนินการก็ได้เร่งรัดไปแล้ว และเพื่อความรวดเร็ว ทางจังหวัดได้เสนอของบประมาณไปยังกระทรวงอุตสาหกรรม ส่วนแผนระยะยาวนั้น ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกันตรวจสอบในพื้นที่ทุกตารางนิ้วว่ายังมีแหล่งที่นำกากสารเคมีหรือกากสารพิษอุตสาหกรรมมาทิ้งในพื้นที่อีกหรือไม่ และดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ทั้งนี้ หากพบว่ายังมีการลักลอบนำมาทิ้ง นายอำเภอเจ้าของพื้นที่ต้องรับผิดชอบ
          "คอรัปเตอร์" บอกตามตรง เรื่องนี้ถือเป็นมาตรการที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพราะชีวิตสัตว์และชาวบ้านกำลังตายผ่อนส่ง "ยิ่งลักษณ์ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี คงต้องกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาโดยด่วน...!!!


pageview  1210959    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved