พระพยอม กัลยาโณ
          prapayom@watta.co.th
          ทุกวันนี้มีข่าวออกมาให้เห็นอยู่บ่อยๆว่ามีคนเสียชีวิตหรือไม่ก็ได้รับความเสียหายด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ไม่ว่าจะเหตุการณ์ขับรถไล่ยิงเด็กแว้น มองหน้ากันขับรถปาดหน้ากันจนต้องไล่ยิงกัน หรือประเภทผิดหวังจากความรัก เมียทิ้งก็คิดปีนตึก กระโดดลงมาตาย เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมากมายเหลือเกิน
          วิธีแก้อารมณ์โมโห อารมณ์หงุดหงิดจากการกระทำของคนอื่นหรือของตัวเราเอง ทางแก้ที่ดีที่สุดเพื่อไม่ให้ตัวเราและคนอื่นต้องได้รับความเดือดร้อนคือ ต้องท่องคาถาป้องกัน เตือนตัวเองให้มีสติอยู่ตลอดเวลาว่า "ได้ยินแล้วๆ ระวังๆ อย่ารัก อย่าชัง อย่าวูบวาบไปกับมัน เห็นแล้วระวังๆ อย่ารัก อย่าชัง อย่าวูบวาบไปกับมัน"นี่คือคาถาของหลวงพ่อพุทธทาสที่ท่านให้เราเตือนสติตัวเองอยู่ตลอดเวลา
          คนที่มีอารมณ์โกรธมาก ไม่ว่าจะเป็นคนที่พ่อแม่ถูกฆ่าตาย ลูกเมียถูกทำร้าย หรืออะไรก็ตามที่ทำให้สะสมความโกรธแค้นอยู่ในใจ เหมือน กับรถที่ความร้อนขึ้นสูงแต่ยังดันทุรังขับไปก็มีแต่พัง ชีวิตคนเราก็เหมือนกัน ยามที่โกรธใครมากๆแล้วไปทำอะไรเขา  ชีวิตก็จะเดินต่อไปไม่ได้ เพราะถ้าเราไม่ตายแต่เขาตาย ตัวเองก็ต้องติดคุกติดตะราง สิ่งเหล่านี้ไม่ทำให้เกิดประโยชน์เกิดคุณค่าอะไรกับชีวิตเลย
          สิ่งสำคัญที่สุดคือ เราต้องรู้จักยับยั้ง เบรกรั้ง หักห้าม อย่าวู่วาม อย่าหุนหันพลันแล่น ต้องเป็นคนรู้จักหนักแน่นกันเสียบ้าง ชีวิตจึงจะอยู่รอดแบบปลอดภัย
          เพราะฉะนั้นอารมณ์ชั่ววูบเราต้องเรียน รู้บ้าง เราต้องฝึกที่จะเอาชนะให้ได้ อย่าให้ เราต้องเป็นคนอารมณ์บูดตอนเช้า อารมณ์ เศร้าตอนเพล อารมณ์เหม็นตอนค่ำ อะไรมา ก็วู่วาม อะไรมาก็ไม่ยอม จนต้องชักปืนออก มายิง จนต้องปีนเสาไฟฟ้ากระโดดลงมาตาย หรืออะไรก็ตามที่เป็นการแก้ปัญหากันด้วย ความรุนแรง
          คนเราต่อให้เป็นคนที่มีสมองดี มีสติปัญญาฉลาดอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ถ้าเป็นคนหุนหันพลันแล่น ใช้อารมณ์มากกว่าสติ เพราะถึงมีปัญญาฉลาดอย่างไรก็ไม่สามารถนำมาใช้ได้ ฉะนั้นอยากให้ทุกคนไตร่ตรองใช้สมองคิดกันให้รอบด้าน รู้จักคำว่ายับยั้งเบรกรั้ง อย่าปล่อยให้จิตหลุดกันง่ายๆ
          เจริญพร
          "คนเราต่อให้เป็นคนที่มีสมองดี มีสติปัญญาฉลาดอย่างไร ก็ไม่มีประโยชน์ถ้าเป็นคนหุนหันพลันแล่น ใช้อารมณ์มากกว่าสติ"