ไทยติดโควิดอีก187 'ศบค.'เล็งผ่อนคลาย
          "สธ." ดีเดย์! 14 กุมภาฯ ลุยฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มแรก พร้อมเปิดแอพฯ "หมอพร้อม" ลงทะเบียน 12 ก.พ.นี้ ยันความปลอดภัย ปชช.มาอันดับหนึ่ง "ศบค." พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 187 ราย ตายเพิ่มอีก 2 เป็น "ชายอังกฤษ-หญิงสมุทรสาคร" ด้าน "หมอเบิร์ท" ชี้โรงเรียนพื้นที่เสี่ยงสูงอาจปิดต่อ เว้นพื้นที่สีเขียว เผยสัปดาห์นี้เตรียมผ่อนคลายบางมาตรการ "บิ๊กตู่" หวั่นไทม์ไลน์ฉีดวัคซีนโควิดเลื่อนขออย่าโยงการเมือง สวน "ธนาธร"ไม่ต้องมาขอหากเข้าใจผิด
          ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เมื่อวันที่ 25 ม.ค.64 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข พร้อมผู้เกี่ยวข้องได้ร่วมประชุมทางไกลร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ของรัฐและเอกชน เพื่อชี้แจงการบริหารจัดการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระยะที่ 1 สำหรับบุคลากรการแพทย์ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
          ทั้งนี้ ภายหลังการประชุม นายอนุทิน เปิดเผยว่า การเตรียมความพร้อมในการฉีดวัคซีนจากบริษัท แอสตราเซนเนกา ที่จะเข้ามาลอตแรกต้นเดือน ก.พ.นี้ จำนวน 50,000 โดส
          ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุขในฐานะประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 กล่าวว่า การประชุมเพื่อเตรียมการฉีดวัคซีนให้ประชาชนเร็วที่สุด หากวัคซีนเข้ามาในสัปดาห์ที่ 1 ของเดือน ก็จะพร้อมฉีดให้สัปดาห์ที่3 กลางเดือน ก.พ. นี้แน่นอน โดยทางปลัด สธ.ได้เสนอให้ฉีดวันที่ 14 ก.พ. โดยการฉีดต้องเป็นไปตามความสมัครใจ โดยให้บุคลากรการแพทย์ที่ทำงานหน้าด่านในพื้นที่เสี่ยงลงทะเบียนได้ที่แอพพลิเคชั่น"หมอพร้อม" วันที่ 12 ก.พ.นี้ ส่วนประชาชนกำลังพิจารณาช่องทางการลงทะเบียนที่เหมาะสมอีกครั้ง อย่างไรก็ตามรองนายกฯ ได้เน้นย้ำว่า การฉีดต้องเป็นธรรม โปร่งใส ไม่ให้มีการเหลื่อมล้ำ
          "หลังจากฉีดวัคซีนต้องติดตามว่าฉีดแล้ว 7 วัน หรือ 1 เดือน จะมีปัญหาหรือไม่ เพราะความปลอดภัยต้องมาอันดับหนึ่ง โดยระยะแรกต้องฉีดในโรงพยาบาลก่อน จึงค่อยพิจารณาให้ฉีดในสถานีอนามัยที่มีความพร้อมหรือรถโมบาย ซึ่งอยู่ในแผน แต่ต้องปรับตามสถานการณ์ โดยสัปดาห์หน้า จะทยอยส่งเข็มไปยังโรงพยาบาลต่างๆ 2.5 ล้านชุด สำหรับการเตรียมตัวเพื่อรับวัคซีนส่วนประชาชนคาดได้ฉีดในปี 65"
          ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ รองโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทย ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 187 รายเป็นการติดเชื้อในประเทศ 177 ราย แบ่งเป็นตรวจพบในระบบเฝ้าระวังและบริการ 61 ราย และผู้ติดเชื้อจากการคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 116 ราย กลุ่มผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันโรค 10 ราย รวมผู้ป่วยสะสม13,687 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 รายรวมสะสมที่ 75 ราย โดยผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายเป็นชาย สัญชาติอังกฤษ อายุ 61 ปีและเป็นหญิงไทย อายุ 56 ปี ชาวสมุทรสงคราม
          พญ.อภิสมัย ยังกล่าวถึงรายงานสถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อประจำวันของจ.สมุทรสาคร ว่า วันนี้คาดว่าจะพบผู้ติดเชื้อถึง 800 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้จากการระดมทีมลงไปตรวจค้นหาเชิงรุกในพื้นที่ชุมชน ในสัปดาห์นี้แต่ละวันจะเห็นมาตรการคลายล็อกออกมา บางจังหวัดอาจจะมีการผ่อนคลายมากขึ้นส่วนบางพื้นที่ที่ยังเป็นสีแดง จะมีการเข้มข้นมากขึ้น
          พญ.อภิสมัย กล่าวถึงแนวโน้มการเปิดโรงเรียนในช่วงนี้ ว่า ขณะนี้ยังมีความเห็นต่างกัน โดยทางกระทรวงศึกษาธิการมีการประชุมกันทุกวัน หากตัวเลขอยู่ในการประมาณการ และไม่หลุดไปจากนี้จะมีการเปิดเรียนแน่นอน แต่จะเปิดไม่เท่ากันเพราะพื้นที่เสี่ยงสูงต้องรอก่อนส่วนพื้นที่สีเขียวอาจจะมีข่าวดี
          ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหมกล่าวว่า ขณะนี้เราทำตามไทม์ไลน์ที่เรากำหนดอยู่แล้ว ไม่อยากให้เป็นเรื่องการเมือง รัฐบาลก็พยายามทำอย่างเต็มที่ ด้วยหลักทางด้านสาธารณสุข และคณะกรรมการโรคระบาดและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อ.ย.)
          เมื่อถามว่า หลายคนเป็นห่วงว่าไทม์ไลน์เรื่องวัคซีนที่วางเอาไว้จะเลื่อนหรือไม่เพราะมีการเมืองเข้ามาเกี่ยว ข้อง นายกฯกล่าวว่า "ก็นั่นน่ะสิ อย่านำมาเกี่ยวกับการเมือง วันนี้การเจรจา การตกลงก็เป็นไปได้ด้วยดี หากเราประโคมข่าวเรื่อยๆก็จะเกิดปัญหาความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน
          เมื่อถามว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เรียกร้องให้เปิดรายละเอียดเอกสารการจัดซื้อวัคซีนพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รายละเอียดต่างๆให้ไปว่ากันในสภา ซึ่งมีคนชี้แจงอยู่แล้วเมื่อถามย้ำว่า นายธนาธรพร้อมขอโทษหากเข้าใจผิด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า"ไม่ต้อง ผมคิดว่าผมไม่ได้ผิดอะไร"
          เมื่อถามว่า เหตุผลอะไรที่ใช้ ม.112 แจ้งความดำเนินคดีกับนายธนาธร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้เลือก หากการดำเนินการเข้ากับกฎหมายใดก็แจ้งกฎหมายนั้น ซึ่งมีทั้งหมด ม.112 ม.116 และมีอยู่หลายมาตราใน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หากผิดตรงไหนก็ต้องโดน ถ้าไม่อยากถูกดำเนินคดีก็อย่าทำ กฎหมายมีให้ทุกคนต้องปฏิบัติตาม
          "ไม่อยากให้ไปให้เครดิตในเรื่องเหล่านี้ การให้เครดิตกับคนที่ทำความผิดโดยเจตนาถามว่าถูกต้องหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าผิดหรือถูก เพราะเป็นการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ผมได้ย้ำไปว่าให้เจ้าหน้าที่ทำตามกฎหมายและทุกคนก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หากคิดว่าตัวเอง ไม่ผิดก็ไปสู้คดีกันไปก็เช่นเดียวกับคดีอื่นๆ"