ติดเชื้อเพิ่ม189รายยืนยันแม่ค้าขายหมูไม่ใช่คลัสเตอร์ใหม่
          "ศบค." พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่อีก 189 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเผย "กราฟรายสัปดาห์" ยอดรวมผู้ป่วยสะสม-รายใหม่ยังพุ่ง "หมอทวีศิลป์" ยันแม่ค้าขายหมูติดโควิดเชื่อมโยงกลุ่ม จ.สมุทรสาคร ไม่ใช่คลัสเตอร์ใหม่ วอนร้านค้าโหลด "ไทยชนะ" หลังพบแค่ 3 แสน จาก 1 ล้านร้านค้า ขณะที่ "จีน" เดินหน้าจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ช่วยเหลือ 53 ประเทศกำลังพัฒนา
          วันที่ 9 ก.พ.64 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 189 ราย โดยพบติดเชื้อในประเทศ 179 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 10 รายรวมยอดผู้ป่วยสะสม 23,746 ราย  ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอยู่ที่ 79 คน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้ติดเชื้อใน จ.สมุทรสาครวันนี้ มีจำนวน 159 ราย โดยรูปแบบเดินเข้ามารับการตรวจ 109 ราย และตรวจเชิงรุกในโรงงานขนาดกลาง และขนาดเล็ก 50 ราย ขณะที่กราฟรายสัปดาห์ ยอดรวมสะสมยังพุ่งสูงขึ้น ส่วนกราฟที่อยู่ระหว่างการรักษาในโรงพยาบาลก็ยังเป็นตัวเลขที่ชันอยู่ ขณะที่ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ ยังมีแนวโน้มสูงขึ้น
          นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงข้อกังวลของชาว จ.สมุทรสงคราม หลังมีการระบุแม่ค้าขายหมูติดเชื้อรายใหม่ที่พบเป็นคลัสเตอร์ใหม่ ว่า ไม่ใช่คลัสเตอร์ใหม่เป็นเคสที่เชื่อมโยงกับทาง จ.สมุทรสาคร ยังยืนยันในชุดข้อมูลเดิมที่มีการแถลงข่าวไป ดังนั้น ผู้ที่อยู่ใน จ.สมุทรสงคราม และจ.สมุทรสาคร ต้องดูแลสุขอนามัย  ใส่แมสก์ หมั่นล้างมือ
          นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับการใช้แอพพลิเคชั่น"ไทยชนะ" ซึ่งเป็นการติดตั้งระบบอยู่ที่สถานที่เช่นกิจการ/ร้านค้า ลงทะเบียน 383,968 แห่ง เป็นจำนวนที่ยังน้อยอยู่ เมื่อเทียบกับร้านค้าที่มีกว่า 1 ล้านแห่ง จึงขอฝากร้านค้าทุกร้านช่วยกันลงทะเบียนด้วย ส่วนแอพพลิเคชันหมอชนะ มีการใช้งาน 6.7 ล้านคน ก็อยากยืนยันให้ทุกคนได้ใช้สำหรับการปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) ในการตรวจในพื้นที่จ.สมุทรสาคร ยังต้องขอความร่วมมือจากประชาชนอย่างเข้มข้นอยู่
          วันเดียวกัน นายวัง เหวิน ปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน แถลงว่า จีนได้ดำเนินการจัดสรรวัคซีนต้านโรคโควิด-19 เพื่อช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนา 53 แห่ง รวมถึงปากีสถาน โดยได้ขนส่งวัคซีนให้ 22 ประเทศแล้ว
          สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งชาติเกาหลีใต้ หรือเคซีดีซี เปิดเผยถึงแผนการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในสัตว์เลี้ยงของประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง พื้นที่ในกรุงโซลเมืองหลวงของประเทศ
          รายงานข่าวแจ้งว่า แผนการตรวจโรคข้างต้น มีขึ้นภายหลังจากพบสัตว์เลี้ยงเป็นลูกแมวตัวหนึ่งของประชาชนในเมืองจินจู จ.คย็องซังใต้ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ติดเชื้อไวรัสโควิดฯ เป็นรายแรกของประเทศ โดยลูกแมวมีอาการเหมือนเป็นไข้ และหายใจติดขัด ซึ่งขณะนี้ลูกแมวตัวดังกล่าวถูกนำไปกักโรคแล้ว ส่วนผู้ที่อุ้มและใกล้ชิดกับลูกแมวตัวนี้ กำลังถูกตรวจหาเชื้อไวรัสโควิดฯ ด้วยเช่นกัน ท่ามกลางความหวั่นวิตกว่า มนุษย์จะได้รับเชื้อไวรัสโควิดฯ จากสัตว์เลี้ยงของพวกเขา
          ทางด้าน นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศถึงโครงการฉีด
          วัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ให้แก่ประชาชน โดยเน้นย้ำว่า ประชาชนชาวญี่ปุ่นจะได้รับวัคซีนทุกคน
          โดยนายกรัฐมนตรีซูงะ กล่าวต่อคณะกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎรของญี่ปุ่นว่า ตนตระหนักเป็นอย่างดีจากกรณีที่มีผู้เห็นว่า ญี่ปุ่นอนุมัติวัคซีนป้องกันไวรัสโควิดฯ ล่าช้ากว่าหลายประเทศของโลกตะวันตก ซึ่งตนขอชี้แจงว่าเพราะญี่ปุ่นมีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมน้อยกว่าบรรดาประเทศเหล่านั้น จนกลายเป็นสาเหตุทำให้มีเวลาสำหรับการทดลองทางคลินิกกับวัคซีน ซึ่งต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง
          พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นยังระบุด้วยว่า วัคซีนป้องกันไวรัสโควิดฯอาจมีประสิทธิภาพแตกต่างกันเมื่อใช้กับประชากรของแต่ละประเทศ ดังนั้นการทดลองทางคลินิกกับชาวญี่ปุ่นจึงมีความจำเป็น เพื่อให้แน่ใจว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพและปลอดภัยกับชาวญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
          ขณะที่ สถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดอย่างหนักในพื้นที่ 219 ประเทศทั่วโลก ส่งผลให้มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 107,007,830 ราย ส่วนผู้ป่วยที่เสียชีวิตได้เพิ่มจำนวนเป็น 2,336,339 ราย และผู้ป่วยที่รักษาหายมีจำนวนสะสม 78,867,744 ราย
          โดยสหรัฐอเมริกา เป็นประเทศที่มีจำนวนสะสมของผู้ป่วยติดเชื้อมากที่สุดในโลก 27,700,629 ราย ส่วนผู้ป่วยเสียชีวิตมีจำนวนมากที่สุดในโลกเช่นกันที่ 476,405 ราย และผู้ป่วยที่รักษาหายมีจำนวนสะสม 17,512,584 ราย