HISO - เรื่องเล่าข่าวเด่น

  
   Follow us      
  
กรุงเทพธุรกิจ [ วันที่ 07/12/2563 ]
เชียงราย กัก9คนติดโควิด สธ.มั่นใจ ไม่ระบาด รอบ2

กรุงเทพธุรกิจ  เชียงรายกักตัว 9 รายติดเชื้อโควิด สาธารณสุขยัน ไม่ระบาดในไทยระลอก 2 ชี้สถานการณ์ ขณะนี้ระบุต้นตอได้หมด เป็นการติดเชื้อ แบบจำกัดไม่พบแพร่เชื้อต่อไปยังบุคคลอื่น มีผู้ติดเชื้อจากในประเทศเพียง 3 ราย ติดเชื้อจากการลักลอบเข้าท่าขี้เหล็ก 20 ราย และไม่พูดความจริง ด้าน"นายกฯ"กำชับ คุมเข้ม เน้นพื้นที่ภาคเหนือ-เชียงรายเชียงใหม่ สั่งติดตามตัวผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย เร่งสร้างความเชื่อมั่นประชาชนท่องเที่ยวปลายปี
          วานนี้ (6 ธ.ค.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวสถานการณ์โควิด -19 โดยนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า ผู้ติดโควิด-19 ที่ประเทศไทยรายงานอย่างต่อเนื่องช่วงนี้ แบ่งเป็น 3 กลุ่มคือกลุ่มในสถานที่กักกัน กลุ่มลักลอบเข้าเมือง ผิดกฎหมายจากประเทศเมียนมา และ กลุ่มติดเชื้อในประเทศที่มีอยู่ 3 ราย ซึ่งการสอบสวนโรคแต่ละราย เพื่อหาไทม์ไลน์ ผู้ติดเชื้อว่าไปที่ไหน อย่างไร และเจอใครบ้าง จะเป็นประโยชน์กับประชาชนที่เกี่ยวข้องกับไทม์ไลน์นั้น
          โดยหากเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงจะเข้าอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่และตรวจหาเชื้อ จนครบ 14 วัน และกลุ่มเสี่ยงต่ำให้เฝ้าสังเกตอาการ หากมีอาการป่วยให้รีบไปตรวจ และแยกตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ทำให้ควบคุม โรคได้ จากนั้นกรมควบคุมโรคจะมีแนวปฏิบัติ ไปยังจังหวัดในการจัดการในพื้นที่ ทำให้ คุมโรคได้เร็ว และหลังจากนั้นกรมจะประเมินสถานการณ์โรคในพื้นที่ ก่อนประกาศว่าสถานการณ์พื้นที่นั้นเป็นอย่างไร
          "ความเสี่ยงในการติดเชื้อไม่ได้เกิดจาก สถานที่ แต่เกิดจากอยู่ในเวลาเดียวกับ ผู้มีเชื้อที่กำลังแพร่เชื้อได้หรือไม่ เพราะฉะนั้นจังหวัดต่างๆ ที่มีรายงานผู้ติดโควิด -19 จากคนที่ลักลอบเข้ามาในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา พิจิตร ราชบุรี กรุงเทพฯ สิงห์บุรี หรืออื่นๆ เป็นสถานที่ปลอดภัยยังสามารถไปเที่ยวได้ ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องงดการเดินทาง" นพ.โอภาส กล่าว
          นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการ กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข  กล่าวว่า จากที่มีการรายงานไปก่อนหน้านี้ว่า ตั้งแต่ปลายเดือน พ.ย.จนถึงวันที่ 6 ธ.ค. 2563 มีผู้ติดเชื้อจากในประเทศ 5 รายนั้น แต่จากการสอบสวนโรคเชิงลึก พบว่า ผู้ติดเชื้อมีการปกปิดความจริง 2 ราย ก่อนหน้าให้ประวัติเพียงว่าไป อ.แม่สาย จ.เชียงราย จึงต้อง ระบุว่า ติดเชื้อจากในประเทศ แต่เจ้าหน้าที่สงสัยเนื่องจากมีระยะเวลากว่า 20 วันที่หายไปไม่สามารถบอกได้ว่าอยู่ที่ไหน เมื่อสอบถามมากขึ้นบวกกับการพิจารณาจากหลักฐานอื่นๆประกอบทำให้ผู้ติดเชื้อยอมรับว่ากลับจากเมืองท่าขี้เหล็ก ดังนั้น 2 รายนี้ คือ ชาย อายุ 30 ปี และหญิง อายุ 26 ปี กทม. ที่เข้ารับการตรวจและรักษาที่รพ.เวชศาสตร์เขตร้อน เท่ากับเป็นการติดเชื้อจากต่างประเทศ
          ส่วนอีก 3 รายที่เป็นการติดเชื้อในประเทศ รายที่ 1 ชาย อายุ 28 ปี จ.เชียงรายที่ติดจากการสัมผัสใกล้ชิดหญิง จ.พะเยา ที่กลับจากเมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา และตรวจพบติดโควิด-19 รายที่ 2 หญิง อายุ 50 ปี จ.สิงห์บุรี มีประวัติไปเชียงราย แต่บอกว่าไม่ได้ไปเมืองท่าขี้เหล็ก โดยเดินทางกลับจากเชียงรายด้วยเที่ยวบินเดียวกับผู้ติดเชื้อแต่นั่งห่างกันมาก
          อย่างไรก็ตาม มีช่วงจังหวะที่สนามบินเชียงราย ได้เข้าห้องน้ำจังหวะที่ใกล้เคียงกับผู้ติดเชื้อ และรายที่ 3 หญิง อายุ 26 ปี จ.กรุงเทพฯ เป็นบุคลากรทางการแพทย์ ติดเชื้อจากในสถานที่กักกันทางเลือก(ASQ) เป็นรายล่าสุดที่มีการรายงาน วานนี้ (6 ธ.ค.) อยู่ระหว่างการสอบสวนโรคเพิ่มเติม ส่วนรายที่เชียงรายและสิงห์บุรี รายงานไปก่อนหน้านี้แล้ว
          ลักลอบช่องทางธรรมชาติ20ราย
          นพ.โสภณ กล่าวอีกว่า สรุปภาพรวมของผู้ติดโควิด-19 ที่เกิดจากการลักลอบเข้าประเทศไทย ผ่านช่องทางธรรมชาติมาจากประเทศเมียนมาที่รายงานอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปลายพ.ย.- 6 ธ.ค. 2563 รวม 20 ราย แยกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มจากเมืองท่าขี้เหล็ก ลักลอบเข้าอ.แม่สาย จ.เชียงราย จำนวน 18 ราย จ.เชียงราย 6 ราย(ติดเชื้อในประเทศ 1 ราย) จ.เชียงใหม่ 5 ราย จ.พะเยา 1 ราย จ.พิจิตร 1 ราย จ.ราชบุรี 1 ราย กรุงเทพฯ 3 ราย และจ.สิงห์บุรี 1 ราย (ติดเชื้อในประเทศ) และ2.กลุ่มจากประเทศ เมียนมา ลักลอบเข้าอ.แม่สอด จ.ตาก 2 ราย
          "ขณะนี้สถานการณ์โควิด-19ในประเทศไทย ไม่ได้อยู่ระดับระบาดระลอก 2 เนื่องจากเกือบทุกรายที่พบติดโควิด-19 และไม่ได้เข้าระบบกักตัวนั้น เป็นการติดเชื้อมาจากประเทศเมียนมาทั้งจากฝั่งแม่สอด และแม่สาย มีเพียง 3 ราย ที่ติดเชื้อจากในประเทศ โดยติดในสถานที่กักกันทางเลือก 1 ราย และอีก 2 ราย ติดจากผู้ที่ลักลอบเข้ามาจากเมืองท่าขี้เหล็ก ซึ่งจะเห็นว่าทุกรายสามารถระบุต้นตอของการติดเชื้อได้และแหล่งพบเชื้อได้ อีกทั้ง ยังไม่พบการแพร่เชื้อ ต่อไปยังบุคคลอื่น ยังเป็นการติดเชื้อแบบจำกัด" นพ.โสภณ กล่าว
          เชียงรายติดเชื้อเพิ่ม 9 ราย
          ขณะที่ วานนี้ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายแพทย์ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย และนายแพทย์ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ได้ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ใน จ.เชียงราย โดยพบมีผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวน 9 ราย เป็นหญิงอายุ 20-44 ปี ที่เดินทางเข้ามาตามช่องทางปกติที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาและได้เข้าสู่กระบวนการกักกันโรคทันทีที่กลับเข้ามาในประเทศโดยไม่ได้เดินทางออกไปในแหล่งชุมชนแต่อย่างใด
          รวมขณะนี้จังหวัดเชียงรายมีผู้ติดเชื้อทั้งหมด 20 ราย โดยเป็นผู้ป่วยที่พบเชื้อในระหว่างกักตัวใน State Local Quarantine จำนวน 14 ราย และผู้ป่วยที่หลบหนีเข้ามาตามช่องทางธรามชาติ จำนวน 5 ราย
          "นายกฯ"สั่งติดตามลักลอบเข้าเมือง
          ด้านนางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มมาตรการการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของ โรคโควิด-19 โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย หลังได้รับรายงานการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย เสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยขอให้ทุกภาคส่วนคุมเข้มในมาตรการป้องกันการลักลอบเข้าเมือง ติดตามตัว ผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายและย้ำถึงมาตรการเพื่อเฝ้าระวังคนกลุ่มเสี่ยงสัมผัส
          ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ในการวางแผนเดินทางท่องเที่ยว ทั้งช่วงหยุดยาวระหว่างวันที่ 10 -13 ธ.ค. เทศกาลคริสต์มาส และเทศกาลปีใหม่ โดยคาดหวังให้ประชาชนท่องเที่ยวด้วยความสบายใจ ปลอดภัยจากโรคระบาด รัฐบาลเชื่อมั่นในมาตรการการเฝ้าระวังโรคโควิด-19 ของประเทศไทยที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถตรวจพบผู้ติดเชื้อและป้องกันการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว
          อย่างไรก็ตาม ต้องขอความร่วมมือประชาชนว่าการ์ดอย่าตก การใช้ชีวิตประจำวันยังต้องสวมใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ เช่นเดียวกับสถานประกอบการต่างๆ ต้องปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของ ผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการเอง
          ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจต่อประชาชน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เตรียมลงพื้นที่จ.เชียงราย ในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ เพื่อติดตามสถานการณ์ภายหลังพบผู้ติดเชื้อในประเทศ
          สมช.ถกกต.ทำวีซ่ารับนักท่องเที่ยว
          พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผอ.ศปก.ศบค. กล่าวว่า วันนี้ (7 ธ.ค.) ที่ประชุม ศปก.ศบค.จะหารือร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศถึงมาตรการการผ่อนคลายให้ นักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามา โดยจะ หารือถึงรูปแบบของวีซ่า เพื่ออำนวยความสะดวก มากขึ้น และต้องทำให้เกิดความสบายใจและ ปลอดภัยกับประชาชนในประเทศด้วย


pageview  1210910    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved