ฝุ่นพิษคลุมกรุงติดอันดับเมืองอากาศแย่
          ผู้จัดการรายวัน360 - กทม. ติดโผเมืองที่มีมลพิษทางอากาศแย่สุดอันดับ 4 ของโลก ฝุ่นพิษ PM 2.5 เกินมาตรฐาน 8 พื้นที่ รัฐบาลยกระดับแก้ฝุ่นพิษทั้งระบบ กทม.-ปริมณฑลห้ามก่อสร้างอาคารใหญ่-รถไฟฟ้า-กวดขันรถควันดำ นายกฯ ยันปัญหา PM 2.5 ต้องร่วมมือกันแก้ไข ชี้ช่วงนี้อากาศปิด ถูกฝาชีครอบ ต้องบูรณาการทุกหน่วยงานจัดการ รบ.ไม่มีสิทธิ์โทษใคร
          วานนี้ (15 ธ.ค.) สภาพอากาศกรุงเทพฯ ยังคงปกคลุมด้วยฝุ่น PM 2.5 โดย Air Visual รายงานว่า หลายเมืองใหญ่ทั่วโลกยังคงมีมลพิษทางอากาศในระดับสูง โดยเมืองที่มีมลพิษทางอากาศในระดับสูงอันดับ 1 ในช่วงเวลา 07.00 น. คือ ธากา, บังกลาเทศ 244 US AQI 2. บิชเคก, คีร์กีซสถาน 241 US AQI 3. โกลกาตา, อินเดีย 182 US AQI และ 4. กรุงเทพมหานคร, ไทย 178 US AQI
          น.ส.ศิวพ รรังสิยานนท์ รองโฆษกศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ(ศกพ.) กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาด ไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในพื้นที่กทม.และปริมณฑล ปรับตัวลดลง เล็กน้อยแต่ภาพรวมยังอยู่ระดับสูงที่ต้องเฝ้าระวัง จากปัจจัยสภาพอุตุนิยมวิทยาเกิดความกดอากาศในรูปแบบฝาชีครอบความเร็วลมต่ำความชื้นสัมพัทธ์สูงการยกตัวของอากาศไม่ดีและอากาศนิ่ง ส่งผลให้ฝุ่น PM 2.5 กระจายตัวได้ยากและสะสมมากขึ้น
          ทังนี้ ค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีส้มเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 58 พื้นที่และระดับสีแดงมีผลกระทบต่อสุขภาพ 8 พื้นที่ ซึ่งดีกว่าช่วงเช้าเล็กน้อยที่มีพื้นที่สีแดงถึง 10 พื้นที่ คือ บริเวณริมถนนดินแดงเขตดินแดง, ริมถนนจรัญสนิทวงศ์เขตบางพลัด, ริมถนนแยกท่าพระเขตบางกอกใหญ่, ริมถนนเจริญนครเขตคลองสาน,ริมถนนมาเจริญเพชรเกษม 81 เขตหนองแขม, ริมถนนสามเสนเขตพระนคร, แขวงทุ่งสองห้องเขตหลักสี่และริมถนนพหลโยธินเขตบางเขน
          นอกจากนี้ พบมีค่าฝุ่นสูงสุดบริเวณริมถนนมาเจริญเพชรเกษม 81 เขตหนองแขมอยู่ที่ 113 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรและพบค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เกินมาตรฐาน 22 พื้นที่พบค่าสูงสุดบริเวณริมถนนดินแดงเขตดินแดงอยู่ที่ 168 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) ได้ติดตามสถานการณ์สาเหตุหลักเกิดจากปัจจัยสภาพอากาศกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ การจราจรหนาแน่น การเผาในที่โล่งและรถยนต์ เบื้องต้นได้ควบคุม ไม่ให้มีการเผาในที่โล่งในเขตปริมณฑลและ กทม.จนถึงวันที่ 17 ธ.ค. นี้ ดังนั้น ต้องควบคุมรถยนต์ที่ปล่อยควันดำบนท้องถนนควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังเข้มงวด
          ห้ามก่อสร้างอาคารใหญ่-รถไฟฟ้า- ขุดเจาะ
          นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ พร้อมด้วย นาย ณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา นพ.ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย และ ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร ร่วมแถลงสถานการณ์และแนวทางจัดการฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานในหลายพื้นที่ของประเทศอยู่ในขณะนี้
          นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า รัฐบาลมีการเตรียมการมาก่อนหน้านี้แล้ว 2 เดือน กำหนดเป็นวาระแห่งชาติในการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 และนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กรมควบคุมมลพิษประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมภายใต้ แผนวาระแห่งชาติ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีได้ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักในการ บูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ โดยมีการกำหนดขอบเขตจากเบาไปหาหนัก หรือปฏิบัติการเข้มข้น
          ทั้งนี้ มีการปรับแผนเพิ่มเติม ทั้งการตรวจควันดำจากการใช้รถยนต์ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซล จะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น ซึ่งมีการตั้งจุดตรวจในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาแล้ว คงต้องยกระดับ มีการออกตรวจ วางจุดมากขึ้น และอีก 30% คือการเผา ได้ประสานให้งดการเผาในที่โล่ง ในเขต กทม. ปริมณฑล และจังหวัดใกล้เคียง ตั้งแต่ทั้ง 14-17 ธ.ค. 63
          นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ช่วงอากาศหนาว จะเป็นช่วงที่ความกดอากาศสูง ลมไม่พัด ทำให้ฝุ่นควันปกคลุม เตือนว่า 1-2 วันนี้ ลมยังไม่เคลื่อนตัว ฝุ่นควันจะปกคลุมอยู่เยอะหลังจากนั้นจะค่อยๆ จางลง
          นพ.ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สธ.เตรียมพร้อมรับมือ ในการให้บริการสาธารณสุข ขณะนี้เตรียมความพร้อมเรื่องฐานข้อมูล ทั้งโรค ทางเดินหายใจ โรคเส้นเลือดในสมอง อีกส่วนคือ 3 หมอ คือ หมอสาธารณสุข หมออนามัย หมอครอบครัว ที่จะคอบดูแลประชาชน
          ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สถานการณ์ของ กทม.วันนี้ค่าฝุ่นเฉลี่ยทั้ง กทม. 74.6 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร มีการออกมาตรการเตรียมพร้อมอยู่แล้ว ตั้งแต่ 17 พ.ย.แล้ว รวม 12 มาตรการ แต่วันนี้มีการยกระดับมากขึ้น เป็นระดับ 2 เพราะคาดว่าฝุ่นจะอยู่อีก 2-3 วัน จึงต้องการบังคับใช้กฎหมายกับพื้นที่เผาอย่างเข้มข้นขึ้น
          รวมทั้งงดกิจกรรมก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ ก่อสร้างรถไฟฟ้า ทำได้เพียงการตกแต่งภายใน รวมทั้งการขุดเจาะ ขนดิน ตักดิน ขอให้งดก่อน ส่วนการปิดโรงเรียนให้ ผอ.เขต และ ผอ.โรงเรียนประเมินสถานการณ์ ขณะนี้กำลังประเมินสถานการณ์อยู่
          นายกฯ ยันต้องร่วมมือกันแก้ไข
          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีมาตรการ ออกไป ทั้งตรวจสอบ จับกุม งดการเผา สิ่งเหล่านี้ได้ดำเนินการมาตลอด ก่อนหน้านี้ไม่มีปัญหา แต่จะมีปัญหาในช่วงนี้ที่อากาศปิดเหมือนเราถูกครอบด้วย ฝาชีอยู่ เราจึงต้องวางแผนร่วมกันทั้งกระทรวงที่เกี่ยวข้องและหลายภาคส่วน โดยเฉพาะการจัดการเรื่องการขนส่ง คมนาคม การจราจร การเผาวัชพืชเพื่อเตรียมการเพาะปลูกในฤดูกาลต่อไป รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรม
          "การที่จะแก้ปัญหานี้ คือการ ลดการใช้รถในพื้นที่เมืองใหญ่ แต่ก็จะทำให้เดือดร้อนกันอีก ทุกคนสามารถ รับได้หรือไม่ ถ้าให้มาใช้ขนส่งมวลชน ให้มากที่สุด หรือปรับการใช้รถเป็นวันคู่วันคี่ จะเอากันหรือไม่ เราต้องไปเข้มงวดในเรื่องของการตรวจรถ ตรวจจับ ควันดำ และการตักเตือนรถที่ไม่ต่อใบอนุญาต"
          โดยอากาศของเราเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านจึงต้องมีการรายงานในระดับคณะกรรมการอนุภูมิภาค เพื่อแก้ปัญหาร่วมกัน ต้องพูดเรื่องนี้ทุกครั้งในการประชุมระหว่างประเทศ เราต้องคิดทุกอย่างให้ร้อยเรียงกันให้ได้ ถ้าคิดว่ามีแต่ปัญหา ก็แก้ไขกันไม่ได้สักที ถ้าทุกคนไม่ต้องการให้มีผลกระทบเลย ก็แก้ไขอะไรไม่ได้ เราต้องคิดร่วมกัน ตนไม่มีสิทธิ์ไปโทษใคร เพราะรัฐบาลมีหน้าที่ในการแก้ไข.