บางแคปิดพื้นที่เฝ้าระวังเชื้อโควิด
          ศบค. แถลงยอดผู้ติดเชื้อ "โควิด-19" วันนี้ ไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 78 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 27,005 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ยอดผู้เสียชีวิต  สะสม 87 ราย เปิดรายละเอียด ผู้ติดโควิด-19" ราย แรก ตลาดบางแค" เป็นพ่อค้าขายไก่และไข่ไก่ พบ เป็นเจ้ามือแชร์ มีพฤติกรรมเดินไปรอบๆ ตลาด ด้าน กทม. แจ้งประชาชนที่เกี่ยวข้องพื้นที่บางแค ช่วง 20 ก.พ.-13 มี.ค. ตรวจคัดกรอง โควิด-19" ฟรี! ในวันที่ 15-16 มี.ค. 64 ขณะที่ศูนย์ฯ บ้านบางแค ประกาศปิดพื้นที่เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาด หลังคลัสเตอร์ "ตลาดบางแค" ลุกลาม กระจายหลายจังหวัด ด้านบริษัทแอสตราเซเนกาแถลงวัคซีนปลอดภัย เผยจากการฉีดให้กับประชาชน 17 ล้านราย ในยุโรป-สหราชอาณาจักร ไม่พบว่าทำให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน
          ติดเชื้อ78รายเสียชีวิต1คน
          พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์แพร่  ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 78 ราย ติดเชื้อใน ประเทศ 74 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 15 ราย การค้นหาเชิงรุกใน ชุมชน 59 ราย และติดเชื้อจากต่างประเทศ 4 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 27,005 ราย พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม  1 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิตสะสม 87 คน ผู้ป่วยที่รักษา หายแล้ว 26,123 ราย และผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 684 ราย
          ไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อโควิต-19 เสียชีวิตรายล่าสุด เป็นชายอายุ 88 ปี อาศัยอยู่ จ.ปทุมธานี (มี  โรคประจำตัวความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และ เนื้องอกในสมอง) พบประวัติมีคนในครอบครัวค้าขาย อยู่ในตลาดพรพัฒน์ และคนในบ้านไม่พบการติดเชื้อ วันที่ 12 ก.พ. 64 มีอาการไข้ไอมีเสมหะหายใจลำบากรับประทานอาหารได้น้อยลง วันที่ 15 ก.พ. 64 เข้ารับ การตรวจเชื้อ ผลยืนยันพบเชื้อ ผู้ป่วยมีการเหนีอยมาก ขึ้น ใส่เครื่องช่วยหายใจ วันที่ 28 ก.พ. 64 พบมี การติดเชื้อในกระแสเลือดและภาวะไตรายเฉียบพลัน มีความดันโลหิตต่ำและอาการทรุดลง วันที่ 13 มี.ค.64 เสียชีวิต
          เฉพาะระลอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.63 ถึง 15 มี.ค. 64 พบผู้ป่วยรายใหม่ 78 ราย ติดเชื้อในประเทศ 74 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 15 ราย การค้นหาเชิงรุกในชุมชน 59 ราย และติดเชื้อจากต่างประเทศ 4 ราย ทั้งนี้ ยอดผู้ป่วยสะสม 22,768 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยรายใหม่ 6,587 ราย การค้นหาเชิงรุกในชุมชน 15,024 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ 1,157 รายเสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ยอดสะสม 27 ราย
          สำหรับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อรวม 120,410,500 รายอาการรุนแรง 87,822 ราย รักษาหายแล้ว 96,960,962 ราย เสียชีวิต 2,665,186 ราย 5 อันดับประเทศที่มีผู้ ติดเชื้อสูงสุด 1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 30,081,657 ราย 2. บราซิล จำนวน 11,483,370 ราย 3. อินเดียจำนวน 11,385,158 ราย 4. รัสเซีย จำนวน 4,390,608 ราย 5. สหราชอาณาจักร จำนวน 4,258,438 ราย ขณะที่ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 116 จำนวน 27,005 ราย
          ไทม์ไลน์ผู้ป่วยตลาดบางแค
          พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์แพร่ระบาด ของโรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า จากกรณีการระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ตลาดบางแค พบว่าผู้ป่วยรายแรกของตลาดบางแค เป็นเพศชาย มีแผงขายไก่และ ไข่ไก่อยู่ 4 แผง ที่ตลาดวันเดอร์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ตลาด บางแค รวมถึงยังเป็นเจ้ามือแชร์ ทำให้เกิดพฤติกรรม เดินไปรอบ ๆ ตลาดเพื่อไปเก็บเงิน มีไทม์ไลน์ดังนี้ วัน ที่ 1 มี.ค. 64 มีใข้ ไอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส วัน ที่ 5 มี.ค. 64 ไปตรวจโควิด-19 และเจ้าหน้าที่ก็เริ่มมีการตรวจเชิงรุกในตลาด รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าในทันที วัน ที่ 9 มี.ค. 64 เจ้าหน้าที่ได้ลงตรวจเชิงรุกที่ตลาดเพิ่มเติมพบว่าตลาดค่อนข้างมีความแออัด มีคนประมาณ 1,200 คน ในตลาดวันเดอร์ รวมถึงมีทางเข้าออกหลายทาง ทำให้มาตรการคัดกรองอาจจะหย่อนลงไป
          ตลาดบางแคตรวจโควิด15-16มี.ค.ฟรี
          พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งได้มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อบริเวณตลาดในพื้นที่เขตบางแค กรุงเทพมหานครจึงขอประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนที่มีความเกี่ยวข้องกับพื้นที่บริเวณตลาดสิริเศรษฐนนท์ (แสงฟ้าเก่า) ตลาดศูนย์การค้าบางแค ตลาดกิตติ ตลาดภาสม ตลาดใหม่บางแค และตลาดวันเดอร์ ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. - 13 มี.ค. 64 เข้ารับการตรวจคัดกรองหาเชื้อไวรัสโควิด-19
          โดยกรุงเทพมหานคร จะนำรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 4 คัน มาทำการเก็บตัวอย่างด้วยวิธีการตรวจค้นหาเชื้อทางโพรงจมูก (SWAB) ให้กับประชาชนทั่วไปที่มีความเสี่ยงสูงข้างต้น โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ณ บริเวณสวนสาธารณะข้างเดอะมอลล์บางแค ในวันที่ 15 - 16 มี.ค. 64 ตั้งแต่ เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป โดยสามารถรองรับการตรวจหาเชื้อให้ประชาชนได้วันละ 800 คน ทั้งนี้ หากมีประชาชนประสงค์เข้ารับการตรวจเป็นจำนวนมาก กรุงเทพมหานครจะพิจารณาขยายวันในการให้บริการตรวจหาเชื้อเพิ่มเติมต่อไป
          ปชช.ย่านบางแคแห่ตรวจ800ราย
          สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ออกประกาศเตือนประชาชน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด ซึ่งพบว่า มีพื้นที่เกี่ยวพันต่อเนื่องจากพื้นที่ กทม. มาที่ จ.นครปฐม หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก ต่อมาเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจเชิงรุก จากผู้ค้าย่านตลาดบางแค โดยพบว่า ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่มีอาการ ทำให้การแพร่ระบาดรวดเร็วและกว้างขวาง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนย่านบางแคจำนวนมาก มาเข้าคิวเพื่อตรวจคัดกรองหาเชื้อไวรัสโควิด-19 จากรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 4 คัน ด้วยวิธีการตรวจค้นหาเชื้อทางโพรงจมูก (SWAB) โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ณ บริเวณสวนสาธารณะข้างเดอะมอลล์บางแค รองรับการตรวจหาเชื้อให้ประชาชนได้วันละ 800 คน
          บ้านบางแคประกาศปิดพื้นที่
          ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค (บ้านบางแค) ก็ได้ประกาศปิดพื้นที่เพื่อป้องกันและเฝ้าระวังสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หลัง "คลัสเตอร์ตลาดบางแค" ที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นและขณะนี้หลายจังหวัดหลายพื้นที่ และเนื่องจากพื้นที่ของศูนย์ฯ อยู่บริเวณใกล้เคียงกับตลาดบางแค
          นางสุจิตรา พิทยานรเศรษฐ์ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ เปิดเผยว่า ได้มีการหารือกับผู้บริหารศูนย์ฯ บ้านบางแค และมีข้อสั่งการมอบหมายการปฏิบัติ โดยด่วนอย่างเข้มข้น ดังต่อไปนี้
          1.มอบหมายผอ.ศูนย์ฯ สร้างความเข้าใจทุกทานในศูนย์ เพื่อไม่ทำให้เกิดความตื่นตระหนก แต่เกิดความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเข้มข้น
          2. แจ้งเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่เข้าไปในพื้นที่เสี่ยงดังกล่าว ในช่วงเวลาที่ระบุ ตามข่าว สังเกตอาการใกล้ชิด ตรวจวัดอุณหภูมิ และจัดทำ timeline พร้อมทั้งเข้าตรวจเชื้อตามระดับความเสี่ยงที่ทางราชการระบุ
          3. ปฏิบัติมาตรการป้องกันตามแผนในระดับสูงสุด ทั้งด้านผู้สูงอายุ เจ้าหน้าที่อาคารสถานที่ และการติดต่อประสานงานกับบุคคลภายนอก โดยงดกิจกรรมจากภายนอก การเข้าออก ปฏิบัติตามมาตรการเข้มข้น และงดเว้นการเดินทางของผู้สูงอายุ มีการทำความสะอาดอาคารสถานที่ฆ่าเชื้อโรค บริเวณจุดสัมผัสต่างๆ เว้นระยะห่าง ล้างมือ และใส่หน้ากากอนามัย โดยเคร่งครัด
          ทั้งนี้ จากการตรวจอาการพื้นฐาน และวัดอุณหภูมิทุกท่านภายในศูนย์ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยทางศูนย์ฯ จะติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์โดยใกล้ชิด และเตรียมความพร้อม หากมีความจำเป็นต้องรับมือสถานการณ์ในระดับต่อไป โดยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานบริหาร และบริการในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งรายงานอย่างต่อเนื่อง
          แอสตราเซเนกาประกาศปลอดภัย
          บริษัท แอสตราเซเนกา (AstraZeneca Plc.) ออกแถลงการณ์ ระบุว่า จากกรณีที่หลายฝ่ายมีความกังวลถึงความเชื่อมโยงระหว่างวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตราเซเนกากับภาวะลิ่มเลือดอุดตัน แอสตราเซเนกา ขอยืนยันถึงความปลอดภัยของวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา ซึ่งสามารถอ้างอิงได้จากข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ และขอยืนยันว่า แอสตราเซเนกา ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นอันดับแรก โดยบริษัทฯ จะยังคงดำเนินการตรวจสอบและติดตามผลด้านความปลอดภัยของวัคซีนอย่างต่อเนื่อง
          จากการศึกษาทบทวนอย่างละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลด้านความปลอดภัย ของวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตราเซเนกากับประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนมากกว่า 17 ล้านรายในสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร ไม่พบว่ามีหลักฐานใดชี้ให้เห็นถึงอัตราความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด (Pulmonary Embolism) ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึก (Deep Vein Thrombosis: DVT) หรือ ภาวะเกล็ดเลือดตํ่า (Thrombocytopenia) ในกลุ่มอายุ เพศ รุ่นการผลิต หรือไม่ว่าจะในประเทศใดก็ตาม
          จากข้อมูลจนถึงวันที่ 8 มี.ค. บริษัทฯ ได้รับรายงานถึงอาการที่เกี่ยวข้องกับภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึกในผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนในสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรทั้งหมด 15 รายงาน และรายงานที่เกี่ยวข้องกับภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นในปอดอีก 22 รายงาน
          เมื่อเทียบจำนวนประชากรแล้ว อัตราการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่ได้รับรายงานหลังการฉีดวัคซีนนี้ ถือว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าอัตราการพบภาวะดังกล่าวในกลุ่มประชากรทั่วไป และยังเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของผู้ผลิตรายอื่นๆ ที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้อยู่ในปัจจุบัน
          โดยรายงานด้านความปลอดภัยประจำเดือน จะมีลงประกาศอยู่ในหน้าเว็บไซต์ของหน่วยงานกำกับดูแลด้านยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพของสหภาพยุโรป (European Medicines Agency - EMA) ในสัปดาห์หน้า เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการด้านความโปร่งใสเกี่ยวกับโควิด-19
          นอกจากนี้ ยังพบว่าแม้ในการทดลองทางคลินิกจะพบอัตราการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันต่ำ แต่ตัวเลขการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ยิ่งต่ำกว่าในกลุ่มของผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน อีกทั้งไม่มีหลักฐานใดบ่งชี้ว่าผู้ที่เข้าร่วมการทดลองทั้ง 60,000 ราย มีอาการเลือดออกเพิ่มขึ้น
          แอน เทย์เลอร์ Chief Medical Officer ของแอสตราเซเนกา กล่าวว่า ปัจจุบันมีประชากรในสหภาพยุโรปและ สหราชอาณาจักรที่เข้ารับการฉีดวัคซีนแล้วกว่า 17 ล้านราย และมีรายงานจำนวนผู้ที่มีภาวะลิ่มเลือดอุดตันต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยของการพบภาวะดังกล่าวในกลุ่มประชากรทั่วไป ซึ่งมีมากกว่าหลายร้อยเคส ภาวะโรคระบาดที่เรากำลังเผชิญอยู่นี้ ทำให้อาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้นในแต่ละเคสได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น และเพื่อความปลอดภัยของประชาชน เรายิ่งต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยในการใช้วัคซีน ยิ่งกว่าการเฝ้าระวังตามมาตรฐานความปลอดภัยของยาทั่วไป
          ในด้านคุณภาพนั้น ไม่มีเหตุการณ์ใดที่ได้รับการยืนยันว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนที่ใช้ในสหภาพยุโรปและในประเทศอื่นๆ ทั่วโลก อย่างไรก็ตามการทดลองเพิ่มเติมยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งโดยแอสตราเซเนกาเองและองค์กรอิสระด้านสุขภาพของยุโรป แต่ก็ยังไม่พบว่ามีข้อบ่งชี้ของอาการไม่พึงประสงค์ใดๆ เพิ่มเติม ทั้งนี้ระหว่างการผลิตวัคซีน แอสตราเซเนกา รวมถึงพันธมิตรและห้องทดลองอิสระอีกกว่า 20 แห่ง ได้ทำการทดลองด้านคุณภาพมาแล้วกว่า 60 ครั้ง
          โดยในการทดลองแต่ละครั้งจะต้องผ่านเกณฑ์การพิจารณาที่เคร่งครัดและเข้มงวด ซึ่งข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับจะทำการส่งไปยังหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านความปลอดภัยในประเทศต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาก่อนที่วัคซีนแต่ละรุ่นการผลิตจะได้รับการอนุมัติให้ใช้ในประเทศนั้นๆ
          ความปลอดภัยของประชาชนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเสมอ บริษัทฯ ตรวจสอบและติดตามผลด้านความปลอดภัยของวัคซีนอย่างใกล้ชิด ทว่าก็ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใดๆ ที่ยืนยันได้ว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาเกี่ยวข้องกับอาการดังกล่าว และเพื่อให้พวกเราสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งการระบาด ของเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคโควิด-19 ไปได้ สิ่งสำคัญคือประชาชนควรต้องได้รับวัคซีนเมื่อสามารถฉีดได้
          รร.นารีวิทยาราชบุรีหยุด4วัน
          ซิสเตอร์นิตยา โจสรรค์นุสนธิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนนารีวิทยา เขตเทศบาลเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี ออกประกาศแจ้งถึงผู้ปกครองนักเรียน ว่า เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ของตลาดบางแคนั้น ส่งผลให้มีการระบาดในวงกว้าง และหนึ่งในนั้นมีครอบครัวของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนนารีวิทยารวมอยู่ด้วย
          ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยงและลดการแพร่เชื้อไปสู่นักเรียน ผู้ปกครอง และบุคลากรทุกคน ทางโรงเรียนนารีวิทยา จึงขอประกาศหยุดเรียนเป็นเวลา 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 16-19 มี.ค.64 และในวันหยุดช่วงเวลาดังกล่าว ทางโรงเรียนจะดำเนินการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรคต่างๆ เพื่อความปลอดภัยในสุขภาพของนักเรียน ผู้ปกครอง และบุคลากรด้วย อนุบาล 1 ถึง ม.3 เปิดเรียนในวันจันทร์ที่ 22 มี.ค. ในวันพุธที่ 17 มี.ค. ระดับชั้น ป.1 มาสอบ RT ตามปกติ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 จะหยุดเรียนตั้งแต่ 16-28 มี.ค. ช่วงระหว่างที่หยุดเรียน จะมีการเรียนการสอนผ่านออนไลน์ ส่วน มารีย์บริบาล เปิดเรียนตามปกติ ทั้งนี้ทางโรงเรียนจึงขอขอบคุณผู้ปกครองและหน่วยงานต่าง ๆ ที่ให้ความร่วมมือที่ดีเสมอมา
          กรมอนามัยย้ำไปตลาดการ์ดไม่ตก
          นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากกรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มก้อนตลาดบางแค 85 ราย ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้า แม่ค้า และแรงงานต่างด้าว โดยไทม์ไลน์ผู้ป่วยในจังหวัดนครปฐม  รายที่ 121 เป็นเพศหญิง อายุ 64 ปี มีประวัติเสี่ยงสัมผัสโรคจากตลาดบางแค และขณะนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม ขอให้ผู้ที่ไปตลาดบางแค ช่วงวันที่ 27 ก.พ.- 13 มี.ค.64 ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด่วนนั้น    รองนายกฯ (นายอนุทิน  ชาญวีรกูล) มีความห่วงใยโดยได้ลงพื้นที่ตลาดบางแคเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อติดตามการสอบสวนโรคซึ่งพบว่ามีปัจจัยเสี่ยงคือเป็นตลาดใหญ่ มีตลาดย่อยติดกัน 6 ตลาด ดังนั้น กรมอนามัยจึงขอความร่วมมือประชาชนการ์ดไม่ตก สวมหน้ากากทุกครั้ง เมื่อมีความจำเป็นต้องไปจับจ่ายสินค้าในตลาดเพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งจากข้อมูลผลสำรวจ  อนามัยโพลครั้งที่ 8 วันที่ 23 ก.พ. – 13 มี.ค.64 ผู้ตอบ 16,624 คน ในภาพรวมเกี่ยวกับพฤติกรรมการป้องกันตนเองของประชาชนเมื่อไปตลาดพบว่า สวมหน้ากากตลอดเวลา ร้อยละ 83.2 จึงต้องรณรงค์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประชาชนสวมหน้ากากตลอดเวลาให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ หรือให้ได้มากที่สุด
          “สำหรับผู้ประกอบการตลาดยังคงต้องคุมเข้มอย่างต่อเนื่อง โดยปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง ตั้งแต่ 1) กำหนดทางเข้า-ออก เพื่อคัดกรองคนเข้าตลาด 2) สวมหน้ากากอนามัยและหน้ากากผ้าทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ 3) จัดจุดล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ 4) รักษาระยะห่างระหว่างกันอย่างน้อย 1-2 เมตร รวมถึงกำหนดมาตรการเพื่อลดความแออัด 5) ทำความสะอาดแผงและร้านค้า อุปกรณ์ของใช้ ด้วยน้ำยาทำความสะอาดทุกวัน 6) ล้างตลาดตามหลักสุขาภิบาลอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และจัดให้มีการระบายอากาศที่ดี 7) พ่อค้าแม่ค้าเมื่อกลับบ้านควรเปลี่ยนเสื้อผ้าและอาบน้ำทันที ไม่ควรนำของใช้ในตลาดกลับบ้าน 8) จัดประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ เช่น เสียงตามสาย บอร์ดป้าย เพื่อสร้างความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง 9) หมั่นสังเกตอาการผู้ปฏิบัติงานภายในตลาด หากมีอาการไข้สูง ไอ จาม ให้งดปฏิบัติงาน และไปพบแพทย์ทันที สำหรับผู้ซื้อสินค้าภายในตลาด ขอให้มีการบันทึกข้อมูลการเข้า–ออก หรือลงทะเบียนเช็คอินผ่านแพลตฟอร์ม ไทยชนะก่อนเข้าใช้บริการ และเช็คเอ้าท์หลังจากใช้บริการทุกครั้ง”" อธิบดีกรมอนามัยกล่าว